- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 27 January 2015 00:04
- Hits: 2426
พาณิชย์ การันตีปาล์มไม่ขาดนำเข้าโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ไทยโพสต์ : กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับผลผลิตปาล์มทะลายที่ลดลง และส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ และทำให้มีน้ำมันปาล์มดิบเข้าสู่โรงกลั่นลดลง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันปาล์มบริโภคที่ลดลง โดยได้เข้าไปดูแลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางมาตั้งแต่มีสัญญาณว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเริ่มปรับตัวลดลง ตั้งแต่ช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้
ประมาณเดือนตุลาคม 2557 กระทรวงพาณิชย์เริ่มเห็นสัญญาณการลดลงของสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ เพราะเป็นปกติของทุกปี ที่ช่วงปลายปี ผลผลิตปาล์มทะลายจะออกสู่ตลาดน้อย จึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งหมด ตั้งแต่เกษตรกรชาวสวน โรงงานสกัด โรงกลั่น และห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกมาหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือ เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
"เราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์กักตุนน้ำมันปาล์ม เกิดเหตุการณ์ขาดแคลน หรือมีฝาจุกน้ำมันปาล์มสารพัดสีออกมา เราจึงเข้าไปบริหารจัดการ เพื่อให้ระบบอยู่ได้" น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงแนวทางการทำงานรับมือที่ผ่านมา
หลังจากหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์ได้เห็นว่าควรจะมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบในปริมาณ 50,000 ตัน เพื่อนำมาชดเชยสต๊อกที่ลดลง เพราะหากไม่นำเข้า ปริมาณสต๊อกก็จะลดลงไปเรื่อยๆ และจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันปาล์มบริโภคในประเทศที่จะเกิดภาวะตึงตัวได้
อย่างไรก็ตาม ในการนำเข้า กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินผลกระทบทางด้านราคาที่จะส่งผลต่อราคาปาล์มทะลายของเกษตรกร โดยราคาเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 6 บาท หากมีการนำเข้าราคาอาจจะปรับตัวลดลงมาบ้าง แต่รัฐบาลก็รับประกันว่าจะไม่ต่ำกว่า กก.ละ 5 บาท ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมหารือก็พอใจ เพราะเป็นการร่วมมือเพื่อช่วยประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตน้ำมันปาล์มที่อาจจะเกิดขึ้น
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ราคาปาล์มทะลายในช่วงนี้ แม้จะราคาสูงถึง กก.ละ 6 บาท แต่ถ้าโรงสกัดไม่ซื้อ โรงกลั่นไม่ซื้อ ก็จะเดือดร้อนไปหมด ระบบทุกอย่างจะหยุดและเดินต่อไม่ได้ ปัญหาก็จะเกิด จึงเป็นที่มาของการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 50,000 ตัน เพื่อมาทำให้ระบบเดินต่อได้ และเมื่อประเมินผลดีผลเสียแล้ว จึงได้นำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เพื่อให้มีมตินำเข้า แล้วจึงเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในช่วงที่สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบลดลง กระทรวงพาณิชย์ยังได้เสนอให้กระทรวงพลังงานลดการใช้น้ำมันปาล์มในการผสมเพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซล เพื่อไม่ให้กระทบต่อน้ำมันปาล์มที่ใช้บริโภค ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยจากเดิมใช้เป็นส่วนผสมในน้ำมันไบโอดีเซลไม่เกิน 7% ก็ปรับลดลงมาเป็น 3.5-7% ซึ่งจะทำให้การใช้น้ำมันปาล์มลดลงได้วันละ 2 ล้านลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ก็จะทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มมีความสมดุลขึ้น
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า นับจากนี้ไปคาดว่าประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่นำเข้า 50,000 ตัน จะเข้ามาถึงประเทศไทย ซึ่งองค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเป็นผู้นำเข้าและเมื่อนำเข้ามาแล้ว ก็จะจัดสรรให้กับโรงกลั่น เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวด แล้วนำออกจำหน่าย ซึ่งยืนยันว่า น้ำมันปาล์มจะมีเพียงพอต่อการบริโภคแน่นอน เพราะตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2558 เป็นต้นไป ผลผลิตปาล์มทะลายก็จะออกสู่ตลาด และทุกอย่างก็จะเข้าสู่ระบบปกติ
"ในการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบที่มีการกล่าวหาว่าไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์คนบางกลุ่ม ขอยืนยันว่า ทุกอย่างทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้งรมว.พาณิชย์ ปลัดพาณิชย์ ไม่มีเด็ดขาดที่จะกระทำการใดๆ ที่ไม่โปร่งใส"น.ส.ชุติมากล่าว
ส่วนการดูแลการจำหน่ายน้ำมันปาล์มในขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในออกตรวจสอบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะดำเนินการตามกฎหมายสำหรับผู้ที่ทำการกักตุน หรือจำหน่ายเกินราคาที่กำหนด โดยยืนยันว่า น้ำมันปาล์มยังมีจำหน่ายปกติ แต่หากประชาชนยิ่งซื้อกักตุน ก็จะยิ่งเพิ่มปัญหา จึงอยากขอความร่วมมือให้ซื้อปกติ เพราะน้ำมันปาล์มไม่ได้ขาดแคลน