- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 19 January 2015 22:53
- Hits: 2654
พาณิชย์ ให้ความช่วยเหลือภาคการผลิตและภาคบริการ เพื่อปรับตัวจากผลกระทบของการเปิดเสรีทางการค้า
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยได้จัดทำความตกลงการค้าเสรีในกรอบต่าง ๆ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ๑๒ ความตกลง ได้แก่ ความตกลงไทย-ออสเตรเลีย ความตกลงไทย-นิวซีแลนด์ ความตกลงไทย-อินเดีย ความตกลงไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) และความตกลงอาเซียน-จีน เป็นต้น และปัจจุบันก็มีการเปิดเจรจาการค้าเสรีเพิ่มเติม ความตกลงต่างๆ จะมีผลต่อทั้งผู้ได้รับผลประโยชน์และผู้ถูกกระทบ ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์จึงได้จัดมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าขึ้น ภายใต้ “โครงการช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า” โดยรัฐบาลได้จัดสรรเงินงบประมาณให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้บริหารโครงการเป็นรายปี
โครงการช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า มีวัตถุประสงค์หลักที่จะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการในสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจบริการที่ได้รับผลกระทบ หรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า และต่อมาได้ขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือรวมถึงสนับสนุนการใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีต่าง ๆ โดยเน้นกิจกรรมที่มีการปรับปรุงคุณภาพสินค้า สร้างมาตรฐาน ส่งเสริมให้มีตลาดทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นสามารถปรับตัวแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน โดยมีหลักเกณฑ์/รูปแบบการให้ความช่วยเหลือในการศึกษาวิจัยและพัฒนา การจัดหาที่ปรึกษาเพื่อช่วยเหลือในการปรับปรุงธุรกิจ การฝึกอบรมอาชีพใหม่ให้กับคนงาน กิจกรรมที่มีผลโดยรวมต่อการสนับสนุนการบริโภค การตลาด ในภาคการผลิตหรือภาคบริการ และการจัดอบรมเสริมสร้างให้มีความรู้เพื่อการปรับตัว
สำหรับ ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ กรมการค้าต่างประเทศได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจำนวน ๕๘.๐ ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า หรือผู้ที่จะใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีต่างๆ โดยผู้ที่เกี่ยวข้อง (กลุ่มผู้ผลิต/กลุ่มผู้ประกอบการ) สามารถยื่นเสนอโครงการขอรับความช่วยเหลือจากกรมการค้าต่างประเทศได้ ภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ สำหรับโครงการที่ยื่นหลังจากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว กรมการค้าต่างประเทศจะนำไปพิจารณาเพื่อจัดสรรงบประมาณให้ในปีถัดไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทร ๑๓๘๕ หรือ ๐ ๒ ๕๔๗๔๘๑๘ และ ๐ ๒๕๔๗๔๘๙๒ โทรสาร ๐ ๒๕๔๗๔๘๑๖
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย