WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

พาณิชย์ กำหนดยุทธศาสตร์ส่งออกเชิงรุก-เจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นคลัสเตอร์

    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การส่งออกว่า ได้กำหนดยุทธศาสตร์การทำตลาดเชิงรุกที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีศักยภาพในการขยายตัวและสอดคล้องกับแนวโน้มของโลก โดยเน้นการบุกตลาดเป็นคลัสเตอร์ เจาะเมืองใหม่ และขยายช่องทางการตลาดอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะแบ่งตลาดเป็น 4 ส่วนสำคัญ คือ 1.ตลาดที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจสูง ได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนต่อการส่งออกไทย 30% มุ่งเน้นกลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่มสถาบัน เช่น โรงแรม คาสิโน เรือสำราญ, กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม(ECO), กลุ่มรักสัตว์เลี้ยง, กลุ่มฮิสแปนิกส์ (เชื้อสายสเปน) ที่เกือบ 1 ใน 3 ของประชากรสหรัฐฯ ในปัจจุบัน โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกขยายตัว 1.9% จากปี 57

    2.ตลาดที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจปานกลาง ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รัสเซีย ซึ่งมีส่วนแบ่งต่อการส่งออกรวม 36% จะมุ่งเน้นผู้บริโภคกลุ่มคนรวยมาก(Super Rich) และเน้นเจาะตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ส่งออกค้าขายผ่านออนไลน์ให้มากขึ้น และเจาะกลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่ ตั้งเป้าตลาดนี้ขยายตัว 6%

   3.ตลาดที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจน้อย ได้แก่ แอฟริกา เอเชียใต้ ไม่รวมอินเดีย  จะมุ่งเน้นเจาะตลาดสินค้าด้านการเกษตร ก่อสร้าง สุขอนามัย แหล่งวัตถุดิบ ขยายการลงทุน วัตถุดิบ และ 4. ตลาดอาเซียน มุ่งเน้นสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจบริการ ก่อสร้าง การลงทุน ตั้งเป้าหมายตลาดนี้โต 5.9%

   นอกจากนี้ ยังจะใช้กลยุทธ์ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ช่วยเหลือ หรือเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) โดยให้การอบรมแนะนำ และพาไปเปิดตลาดในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัท LOXLEY รับจะเป็นพี่เลี้ยงพาเอสเอ็มอีไปเจาะตลาดห้างสรรพสินค้าที่ฮ่องกง ส่วนเครือเจริญโภคภัณฑ์จะนำไปเจาะตลาดจีน เช่นเดียวกับกลุ่มเซ็นทรัล

   "กระทรวงพาณิชย์จะเปิดการเจรจาเชิงรุกเพื่อเปิดตลาด และดำเนินการเชิงรุกเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหา ที่จะกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ พร้อมกับการปฏิรูปโครงสร้างการส่งออกเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาว โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกขยายตัว 4%" รมว.พาณิชย์ กล่าว

   พล.อ.ฉัตรชัย ยังกล่าวถึงการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินการระบายข้าวในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.นี้ ซึ่งยังไม่มีผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกมา จึงไม่น่าจะทำให้ราคาตลาดในประเทศลดลง เพราะกระทรวงฯ มีความเป็นห่วงเรื่องราคาข้าวในประเทศอยู่แล้ว

   อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนการขายข้าวในต่างประเทศแล้ว โดยวันพรุ่งนี้(15 ม.ค.) จะเดินทางไปฮ่องกง เพื่อเป็นสักขีพยานการลงนามซื้อข้าวสารหอมมะลิจากไทยปริมาณ 100,000 ตัน จากนั้นยังมีแผนจะเดินทางไปทำตลาดข้าวไทยในอีกหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย โดยอินเดีย แม้จะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก แต่ยังมีช่องว่างที่ไทยจะขายข้าวหอมมะลิได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรวย ซึ่งหากทำให้กลุ่มคนเหล่านี้หันมาชื่นชอบข้าวหอมมะลิไทย จะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของข้าวไทย

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!