WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

พาณิชย์ ตั้งเป้าระบายข้าวสต็อกรัฐปีนี้ 10 ล้านตัน พร้อมเตรียมออก TOR ล็อตแรก 1 ล้านตัน 20 ม.ค.นี้

 พาณิชย์ตั้งเป้าระบายข้าวสต็อกรัฐปีนี้ 10 ล้านตันประกอบด้วย ข้าวคุณภาพดี 60% และข้าวเสื่อมคุณภาพ 40% ส่วนอีก 7 ล้านตันที่เหลือเตรียมเร่งระบายในปี 59  เดินหน้าออก TOR ล็อตแรก 1 ล้านตัน 20 ม.ค.นี้ ด้านตัวเลขการส่งออกข้าวปี 57 อยู่ที่ระดับ 10.8 ล้านตัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าส่งออกไว้ที่ 10.5-11 ล้านตัน ด้าน รมว.พาณิชย์ พาผู้ประกอบการเดินหน้าบุกฮ่องกง ทวงโควต้าข้าวไทยคืน

   น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 58 กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายสำหรับการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลไว้ประมาณ 10 ล้านตัน จากทั้งหมดที่มีอยู่ 17.8 ล้านตัน โดยคาดว่าภายในปีนี้จะสามารถระบายข้าวได้ประมาณ 10 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นการระบายข้าวทั้งเพื่อการบริโภคและการใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งข้าวในสต็อกทั้ง 10 ล้านตันนี้ ประกอบด้วย ข้าวคุณภาพดี 60% และข้าวเสื่อมคุณภาพ 40%          

  ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับการระบายข้าวครั้งแรกของปีนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.58 เป็นต้นไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเสนอขออนุมัติการระบายข้าวจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) ก่อนล็อตแรกจำนวน 1 ล้านตัน โดยเตรียมจะออก TOR ในวันที่ 20 ม.ค.นี้         

 อย่างไรก็ดี การระบายข้าวจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงแรกจะเริ่มในเดือนม.ค.-มี.ค. และจะหยุดระบายข้าวในช่วงที่มีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาด ซึ่งคาดว่าจะมีการระบายข้าวปีละ 2-3 ครั้ง ส่วนปริมาณข้าวในสต็อกที่เหลืออีก 7.8 ล้านตันนั้นคาดว่าจะทยอยระบายให้เสร็จสิ้นภายในปี 59           

  ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวถึงตัวเลขการส่งออกข้าวในปี 57 ว่าสามารถส่งออกได้ 10.8 ล้านตัน โดยในปีนี้ตั้งเป้าส่งออกข้าวไว้ที่ 10.5-11 ล้านตัน 

  อนึ่ง จากการที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวได้มีมติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557 เห็นชอบแนวทางดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ และมอบคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวพิจารณากำหนดแผนและวิธีการระบายข้าว โดยในปี 2558 จะพยายามระบายทั้งข้าวดีเพื่อการบริโภคและข้าวเสียเพื่อเป็นวัตถุดิบอุตสาหกรรรมประมาณ 10 ล้านตัน สำหรับข้าวจำนวนที่เหลือ ปริมาณ 7 ล้านตันเศษ จะเร่งระบายในปี 2559 ต่อไป  ซึ่งจากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ในวันนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบให้     

  -ให้ระบายข้าวในสต็อกของรัฐแบบยกคลัง โดยการจัดลำดับคลังที่จะนำมาระบาย ให้คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความมากน้อยของปริมาณข้าวในคลัง ระยะทางขนส่ง ความต้องการของตลาด ข้อจำกัดด้านแรงงาน และความสะดวกในการส่งมอบ  

  ·ให้ประกาศมูลค่าข้าวขั้นต่ำ (Floor Value) ณ หน้าคลังของแต่ละคลังให้ผู้สนใจทราบ. เพื่อประกอบการยื่นประมูล โดยผู้เสนอ Floor Value สูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล  

  · ข้าวที่จะประมูลขายในช่วงแรกจะเป็นข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ข้าวหย่อนมาตรฐานในระดับเกรด A และเกรด B ส่วนข้าวเกรด C และข้าวเสียอื่นๆ จะนำมาระบายหลังจากที่ อคส. และ อตก. ได้แจ้งความดำเนินคดีและได้มีการบันทึกหลักฐานเสร็จสิ้น    เพื่อดำเนินคดีแล้ว ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง  

  ·ผู้สนใจประมูลสามารถไปดูข้างในคลังที่นำมาประมูลได้ ตามเวลาที่กำหนด   

 · ผู้ซื้อหลายรายที่ประสงค์จะร่วมกันเสนอซื้อข้าวในคลังเดียวกัน สามารถทำได้โดยให้มอบอำนาจผู้แทน 1 ราย เป็นผู้ดำเนินการยื่นประมูล ทำสัญญา และต้องรับผิดชอบการดำเนินการตามสัญญาซื้อขายตลอดกระบวนการ  การระบายข้าวจะพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อราคาและปริมาณข้าวฤดูใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในเบื้องต้นช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2558 จะทยอยระบายโดยคาดว่าจะออกประกาศงวดแรกในเดือนมกราคมนี้

 รายงานข่าวจากกรมการค้าต่างประเทศแจ้งว่าระหว่างวันที่ 16-17 มกราคมนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะนำภาคเอกชน โดยเฉพาะสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางเยือนฮ่องกง เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง ซึ่งจะหารือข้อราชการและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า ซึ่งไทยและฮ่องกงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้าข้าว  

  นอกจากนี้ จะหารือกับประธานสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง 3 สมาคม ที่มีบทบาทสำคัญในการนำเข้าข้าวไทย รวมทั้งผลักดันการกระจายข้าวไทยไปยังตลาดร้านอาหารและตลาดครัวเรือนฮ่องกงมาเป็นเวลานาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง ( LOI) ความร่วมมือส่งเสริมการค้าข้าวไทย และบันทึกความเข้าใจ ( MOU) ซื้อขายข้าวระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทยและผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง ซึ่งคาดว่าการลงนามครั้งนี้จะมีปริมาณข้าวใน MOU ร่วม 100,000 ตัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวไทยในฮ่องกง

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!