- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 29 May 2024 08:56
- Hits: 4904
พาณิชย์ ดับกังวล หลังเตรียมเปิดประมูล ข้าว 10 ปี ยันเข้มมาตรฐานทั้งส่งออก ขายในประเทศ
พาณิชย์ ชี้แจงขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานการส่งออก 'ข้าวหอมมะลิไทย' หลังสังคมมีความกังวลกรณีกำลังจะเปิดประมูลข้าวหอมมะลิในสต๊อกรัฐบาลที่เก็บมานาน 10 ปี ยันการส่งออก มีหลัก มีเกณฑ์เข้ม ต้องผ่านการตรวจสอบก่อนว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทยแท้ ไม่มีข้าวชนิดอื่นปน ถึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้ และยังตรวจลึกถึงค่าอมิโลส และความบริสุทธิ์โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ผู้ซื้อ มั่นใจได้ ส่วนในประเทศ ข้าวที่จำหน่าย ก็มีการกำหนดมาตรฐานเข้มข้นเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ถึงกรณีมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับมาตรการกำกับดูแล ควบคุมคุณภาพมาตรฐานส่งออกสินค้าข้าวของไทย หลังจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์เปิดประมูลข้าวสารหอมมะลิในสต๊อกรัฐบาล ที่เก็บมาแล้ว 10 ปี ว่า การส่งออกข้าวหอมมะลิไทย
กระทรวงพาณิชย์มีการกำกับดูแลและควบคุมคุณภาพ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ.2503 ซึ่งกำหนดมาตรฐานและขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพไว้ชัดเจน ดังนั้น ข้าวหอมมะลิที่จะนำไปส่งออก จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานก่อน หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะไม่มีการออกใบรับรอง และไม่สามารถส่งออกได้
สำหรับ ขั้นตอนการตรวจสอบ เริ่มจากเมื่อผู้ส่งออกประสงค์จะส่งออกข้าวหอมมะลิไทย จะต้องยื่นคำร้องต่อกรมการค้าต่างประเทศ ขอให้ออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย และต้องแจ้งให้บริษัทผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (บริษัทเซอร์เวย์) ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้า
โดยมีพนักงานตรวจสอบมาตรฐานสินค้าไปสุ่มกำกับการทำงานของผู้ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (เซอร์เวย์เยอร์) และเมื่อผลการตรวจสอบเป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะออกใบรับรองให้ผู้ส่งออกไปประกอบพิธีการศุลกากร เพื่อส่งออกข้าวหอมมะลิไทยได้
ทั้งนี้ ในการตรวจสอบ ได้กำหนดให้ตรวจสอบ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจะตรวจ ณ สถานที่ส่งออก เริ่มจากการสุ่มตัวอย่าง โดยสุ่มจากกองสินค้าเพื่อให้ได้ตัวอย่างสินค้าที่ครอบคลุมสินค้าทั้งหมด ในกรณีสินค้าบรรจุกระสอบ จะสุ่มชักตัวอย่างทุกกระสอบ และนำมาตรวจทางกายภาพ ตรวจความบริสุทธิ์ของข้าวว่ามีข้าวชนิดอื่นที่ไม่ใช่ข้าวหอมมะลิไทยปลอมปนหรือไม่
ตรวจขนาดความยาวของเมล็ด สีของเมล็ด สิ่งเจือปน และความชื้น เป็นต้น โดยจะตรวจทุก 200 ตัน ที่มีการตรวจปล่อย เช่น สินค้า 1,000 ตัน จะตรวจทางกายภาพ 5 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด และยังจะเก็บตัวอย่างเอาไว้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
สำหรับ ครั้งที่ 2 จะตรวจหาค่าต่าง ๆ เหมือนกับการตรวจ ณ สถานที่ส่งออก แต่จะใช้เวลาตรวจสอบมากกว่า เนื่องจากใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาตรวจเพิ่มในบางรายการ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำขึ้น เช่น การตรวจความนุ่มโดยการหาค่าอมิโลส และการตรวจความบริสุทธิ์โดยการสลายเมล็ดข้าวในด่าง เป็นต้น ส่วนการตรวจสารตกค้าง จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะให้ตรวจหรือไม่อย่างไร เป็นกรณี ๆ ไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทำทีโออาร์เพื่อเปิดประมูลข้าวหอมมะลิที่เก็บไว้ในสต๊อกประมาณ 10 ปี และมีการระบุว่าข้าวที่เปิดประมูลนี้ จะถูกนำไปขายให้กับประเทศในแอฟริกา ทำให้เกิดข้อกังวลว่าข้าวมีคุณภาพมาตรฐานหรือไม่ จะส่งออกข้าวที่เก็บไว้ 10 ปี ไปขายจริงหรือ
และประเทศผู้ซื้อเอง ก็มีความกังวล ทำให้กระทรวงพาณิชย์ต้องออกมาชี้แจงว่าการส่งออกข้าว จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็ส่งออกไม่ได้ เพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจในการกำกับดูแลการส่งออกข้าวของไทย
ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าข้าวจะถูกนำมาจำหน่ายในประเทศ เพราะเป็นการเปิดประมูลทั่วไป ผู้ซื้อจะนำข้าวไปขายในประเทศหรือส่งออกก็ได้ ซึ่งการจำหน่ายในประเทศ กรมการค้าภายใน มีการกำหนดมาตรฐานข้าวหอมมะลุบรรจุถุงจำหน่ายในประเทศไว้ชัดเจนเช่นเดียวกัน หากไม่ผ่านมาตรฐาน ก็จะไม่อนุญาตให้ใช้ตรารับรอง หรือหากสุ่มตรวจแล้ว พบว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะตักเตือน พักใช้ หรือเพิกถอนการใช้ตรารับรองก็ได้
ภูมิธรรม เผยผลตรวจข้าว 10 ปี ออกจันทร์นี้ สั่ง อคส. เตรียมพร้อมเปิดประมูล
ภูมิธรรม เผยให้รอดูผลตรวจสอบข้าว 10 ปี ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ วันจันทร์นี้ หลังเอกชนนำไปตรวจ พบไร้ปัญหา ทั้งสารก่อมะเร็ง สารตกค้าง สั่ง อคส.เตรียมเปิดประมูล วางเงื่อนไข ขายล็อตเดียว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้ทราบข่าวถึงผลการนำข้าว 10 ปี ไปตรวจสอบในห้องแลปของบริษัทชั้นนำ ซึ่งข้าวที่นำไปตรวจ เป็นข้าวที่ตนเคยส่งไปให้รายการ 3 มิติ นำไปทดลองหุงรับประทาน ปรากฎว่า ผลตรวจดีมาก และเป็นการตรวจของเอกชนเอง ไม่มีปัญหา ทั้งสารก่อมะเร็ง สารตกค้างจากการรมควัน แต่เพื่อความชัดเจน กระทรวงพาณิชย์เอง ได้ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบด้วย เพื่อความชัดเจนและคลายข้อสงสัย
โดยเบื้องต้น ทราบว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะแถลงข่าววันจันทร์นี้ ตอนนี้ยังตรวจไม่เสร็จ เพราะต้องตรวจเรื่องคุณภาพข้าว สารตกค้างต่างๆ ในข้าว ตรวจละเอียดทั้งหมด ผมขอรอให้ผลตรวจ ถ้าชัดเจนแล้ว เขาจะออกมาแถลงคอนเฟิร์มทั้งหมดว่าเป็นยังไง
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เตรียมร่างทีโออาร์ เพื่อเปิดประมูลแล้ว ขณะนี้กำลังดูทีโออาร์ให้รัดกุม โดยเงื่อนไข จะประมูลยกคลัง ไม่แยกประมูล เพราะอยากขายทีเดียวให้หมด และกำลังดูว่า จะมีการจัดอันดับ 1-5 หรือไม่ หากเจรจาราย 1 ไม่จบ ก็ให้เลื่อนราย 2 ราย 3 ขึ้นมาแทน จะได้ไม่ต้องเปิดประมูลใหม่ ซึ่งจะดูในรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง
“ที่ทำมาทั้งหมด ต้องการให้ทุกฝ่ายสบายใจ ถ้ายังมีความคลางแคลงใจ ก็จะทำให้ชัดเจน และในการประมูล จะให้ประมูลทั้งกอง เพราะข้าวไม่ได้มากแค่ 150,000 กระสอบ ซึ่งข้าวล็อตนี้ เดิมก็ประมูลเป็นข้าวดี ตอนนี้ เราตรวจให้ก่อน ไม่คิดจะให้คนมาเสี่ยงในการบริโภค หรือแม้แต่ที่จะขายไปตลาดแอฟริกา ที่เป็นตลาดข้าวเก่า เราก็ไม่อยากให้มีประเด็นอะไร จึงทำให้เคลียร์ทุกข้อสงสัย ก่อนที่จะเปิดประมูล”นายภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรม เดินหน้าประมูลข้าว 10 ปี คาดแล้วเสร็จมิถุนายน ย้ำประมูลเพื่อประโยชน์สูงสุดของรัฐ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเตรียมเปิดประมูลข้าวในคลัง ว่า “จากผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแลปเอกชน ผลตรวจสอบก็ออกมาแล้วว่าไม่มีสารตกค้าง ถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่จะนำออกสู่ตลาดได้
จึงมีการตัดสินใจอยู่บนหลักการที่ชัดเจนว่าจะประมูลข้าวทันทีและจะประมูลยกกอง โดยจะกำหนดทีโออาร์ให้ชัดเจน มีการประชุมอย่างโปร่งใส ที่ประชุมจะพิจารณาให้ทุกฝ่ายเข้ามาประมูลได้ มีการจัดการประมูลเป็นลำดับที่ 1-5 เพราะหากเกิดมีขัดข้องขึ้น ซึ่งเราคาดว่าจะไม่เกิด การจัดอันดับประมูลข้าว สามารถใช้ผู้เสนอราคาสูงสุดในลำดับถัดไปได้ และข้อดีคือการพิจารณาต่อรองให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะเข้าสู่รัฐ
มีการตั้งคณะทำงานที่ดูแลเรื่องการจัดประมูล โดยไม่ต้องนำเสนอ คกก.นบข. เพราะมีมติอยู่แล้ว ซึ่งได้ตั้งกรรมการขึ้นมาจัดทำทีโออาร์ ประกอบด้วย องค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นกรรมการ คาดว่าทุกอย่างจะชัดเจนไม่เกินสิ้นเดือนนี้(พฤษภาคม) กรรมการชุดนี้พร้อมที่จะประกาศให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเตรียมตัวประมูล และจะจบประมาณเดือนมิถุนายน รายได้ที่เข้ามา จะได้ดำเนินการตามกระบวนการตามหลักการที่ควรจะเป็นตามกฏหมายที่กำกับ”
ในประเด็นของการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูลนั้น นายภูมิธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การจัดประมูลข้าวหอมมะลิอายุประมาณ 10 ปี เมื่อเปิดการประมูล ผู้เข้าประมูลสามารถตรวจสอบคุณภาพเข้าได้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ จะพ้นภาระการรักษาของรัฐและเปิดการประมูล ส่วนผู้ใดจะเข้ามาประมูลก็สามารถดำเนินพิสูจน์คุณภาพข้าวได้ตามหลักเกณฑ์และกระบวนการ
ผมเชื่อว่า ผู้ประมูลทุกคนที่เข้ามาประมูลมีแผนแล้วว่าจะนำข้าวไปใช้ในแบบใดราคาเท่าไหร่ ผมคิดว่าตลาดที่ชัดเจนแล้วคือตลาดข้าวแอฟริกา ที่นิยมทานข้าวเก่า และจำนวน 15,000 ตัน มีจำนวนไม่เยอะรายได้จากการประมูลคาดว่าจะอยู่ในราคาที่ดี ไม่ใช่ขายข้าว 4- 5 บาท ซึ่งเป็นข้าวเน่า“
สำหรับ ข้าวที่จะนำมาประมูล คือ 1. คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2557 ถึง 10 มีนาคม 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ 2. คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ถึง 29 เมษายน 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ