- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 29 May 2024 07:55
- Hits: 4685
พาณิชย์ แนะผู้ส่งออกศึกษาเทรนด์แฟชันสิงคโปร์ ปี 67 ก่อนวางแผนผลิตสินค้าไปขาย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยเทรนด์แฟชันสิงคโปร์ ปี 67 ผู้บริโภคสนใจสินค้าทำจากวัสดุเหลือใช้ แนวสตรีท สินค้าไม่ระบุเพศ ผ้าโปร่งสีขาว กางเกงยีนส์เอาต่ำ-สูง ผ้าลายดอก กระเป๋าทำจากวัสดุรีไซเคิล แนะผู้ส่งออกไทยศึกษาและวางแผนผลิตสินค้าไปขาย
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางณฐมา คูณผล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์ ถึงเทรนด์แฟชันของสิงคโปร์ในปี 2567 และโอกาสในการสินค้าแฟชันของไทยเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางแฟชันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการที่ประชาชนมีรายได้สูง ในปี 2567 รายได้เฉลี่ยต่อหัวในครัวเรือนของชาวสิงคโปร์อยู่ที่ 32,930 เหรียญสหรัฐ และชาวสิงคโปร์มีความสนใจแฟชัน ซึ่งสินค้าแฟชันเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ
โดยเครื่องแต่งกายเป็นกลุ่มสินค้าแฟชันที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ รายได้คาดการณ์อยู่ที่ 2,680 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 3.37% ระหว่างปี 2567-2570 ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าถึงตลาดแฟชันชั้นสูงได้ง่ายขึ้น อัตราการเข้าถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซที่สูง และช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายล้วนเป็นปัจจัยทำให้ตลาดแฟชันในสิงคโปร์เติบโตมากขึ้น
สำหรับ เทรนด์แฟชันของสิงคโปร์ในปี 2567 ได้แก่ Sustainable Fashion แฟชันแบบยั่งยืนเป็นเทรนด์หลักของตลาดโลก รวมถึงสิงคโปร์เช่นกัน การนำผ้าเหลือใช้ และการ Upcycling (การนำของเหลือมาแปรรูปเป็นสิ่งใหม่) กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ผลิต นักออกแบบ และผู้บริโภค เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าฝ้ายออร์แกนิค โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และใยไม้ไผ่
ก็เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในสิงคโปร์มากขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจาก YouGov ระบุว่า ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์หนึ่งในห้าชอบซื้อเสื้อผ้าจากแบรนด์ที่ยั่งยืน โดยส่วนใหญ่บอกว่า พวกเขายอมที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดี และการสำรวจของ Fashion Revolution Singapore ตั้งข้อสังเกตว่า 60% ของผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายแพงขึ้นสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่ยั่งยืน
Street Style Fashion แฟชั่นแนวสตรีทของสิงคโปร์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากการผสมผสานสไตล์แฟชันโลกกับแฟชันท้องถิ่น เข้ากับอิทธิพลทางวัฒนธรรมสิงคโปร์ ในขณะเดียวกัน ยังต้องสวมใส่สบาย โดดเด่น สะท้อนถึงตัวตนและเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิงคโปร์ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมรองเท้าผ้าใบที่มีต้นกำเนิดในอเมริกาเหนือ
ในขณะเดียวกัน แบรนด์แฟชันของกลุ่ม Gen-Z กำลังกำหนดทิศทางแฟชันแนวสตรีทของสิงคโปร์ ผ่านการออกแบบที่มีความหลากหลาย การผสมผสาน และการทดลอง Gender Fluid Fashion แฟชันไม่ระบุเพศกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในสิงคโปร์ ช่วยให้ทั้งชายและหญิงสามารถแสดงตัวตนของตนได้โดยไม่สอดคล้องกับขอบเขตแบบดั้งเดิม ผู้มีอิทธิพลด้านแฟชันชายชาวสิงคโปร์สามในหกคนกล่าวว่า พวกเขาซื้อของในร้านค้าปลีกแฟชันของผู้หญิง เพราะเสื้อผ้ามีการออกแบบที่ดีกว่า และพอดีตัวกว่า ในทางกลับกัน ผู้หญิงมักซื้อสินค้าจากหมวดผู้ชายเพื่อสร้างลุคไม่ระบุเพศมากขึ้น ในปีนี้ แฟชันไม่ระบุเพศ มีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับจากกระแสหลักมากขึ้น โดยมีกลุ่ม Gen-Z เป็นผู้นำ เพราะพวกเขาไม่ต้องการยึดติดกับแนวคิดแบบ Binary (การแบ่งหรือจำกัดกรอบทางเพศ) ในการเลือกเสื้อผ้า หรือสไตล์การแต่งตัว
Sheer White Clothing ผ้าโปร่งเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงเทรนด์ปีนี้เช่นกัน แต่จะเน้นที่ผ้าโปร่งสีขาว เพราะสีขาวยังเป็นสีของแฟชันฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อนของปี 2567 ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ กระโปรง โดยเฉพาะกระโปรงยาวคลาสสิกผ้าโปร่งสีขาวจะเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
Low-Rise and Slouchy Jeans กางเกงยีนส์เอวต่ำ และกางเกงทรงสอบเอวสูงกำลังจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะกระแสการใส่กางเกงหลุดพ้นบั้นเอว (Sagging Pants) เป็นสินค้าแฟชันที่มาแรง เพราะว่าใส่สบายและอีกเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในสิงคโปร์ คือ ชุดเดรสเมทัลลิก
โดยเฉพาะเดรสยาว และเสื้อสายเดี่ยว นอกจากนี้ ผู้หญิงสิงคโปร์ยังชอบการแต่งตัวแบบสบายแบบมีสไตล์ ดังนั้น กางเกงขาสั้น เสื้อยืด กระโปรงยาว และเดรสที่ทำจากผ้าลินิน ผ้าวิสโคส และผ้าฝ้ายจึงได้รับความนิยมอยู่เสมอ
Floral Clothing เสื้อผ้าลายดอกไม้เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังจะกลับมาในปีนี้ ผ้าลายดอกที่มีส่วนผสมของสีส้มพีช และสีส้มอมชมพูที่เป็นแพนโทนของปีนี้
กระเป๋าถือ ชาวสิงคโปร์มักจะชื่นชอบกระเป๋าถือแบรนด์หรู แต่แบรนด์สิงคโปร์ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน กระเป๋าที่ได้รับความนิยมในปีนี้ ได้แก่ กระเป๋าแคนวาส กระเป๋าผ้า กระเป๋า โอเวอร์ไซส์ กระเป๋าที่มีความนุ่มและสไตล์สปอร์ตที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลและย่อยสลายได้ทางชีวภาพจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปีนี้ ยอดขายของตลาดกระเป๋าสิงคโปร์คาดว่าจะอยู่ที่ 373.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ร่ำรวย ชื่นชอบเครื่องประดับแฟชั่นหรูจะยังกระตุ้นความต้องการซื้อกระเป๋าหรูในสิงคโปร์
รองเท้า ประเทศขนาดเล็กอย่างสิงคโปร์มีประชากรเพียง 6 ล้านคน แต่ชาวสิงคโปร์โดยเฉลี่ยมีรองเท้า 5.08 คู่ต่อคน รองเท้าสามารถขายได้มากกว่า 22 ล้านคู่ในสิงคโปร์ทุกปี และคาดว่า จะสูงถึง 35.53 ล้านคู่ภายในปี 2571 ยอดขายตลาดรองเท้าในสิงคโปร์ในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมากแบรนด์ที่ไม่ใช่แบรนด์หรูจะครองตลาดรองเท้า
“อุตสาหกรรมแฟชันเป็นหนึ่งในนโยบาย Soft Power ที่สำคัญของไทย กรมได้มีการส่งเสริมนักออกแบบและแบรนด์แฟชันไทยสู่ตลาดโลกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบัน มีการนำความรู้ นวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ในวงการแฟชันไทยอย่างกว้างขวาง และมีการนำเสนอให้เข้ากับเทรนด์ต่างของโลก การสำรวจความนิยม และเทรนด์ตลาดแต่ละประเทศ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าใจผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย สามารถพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความนิยมในตลาด ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าการผลิตและส่งออกของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”นายภูสิตกล่าว