- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 12 January 2015 22:19
- Hits: 2135
ผู้ผลิตอ้างแบกรับต้นทุนค่าแรง 300 บ. เมินลดสินค้าตามน้ำมันลง
แนวหน้า : “พาณิชย์”ชงครม.สัปดาห์นี้ ทบทวนรายการสินค้าบริการควบคุม พร้อมประกาศขึ้นบัญชีเกาะติดราคา “นมสด-นมเปรี้ยว” ทุกวัน ขณะที่ผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าเมินปรับลดราคาสินค้าลง ตามที่รัฐร้องขอ อ้างค่าแรงเพิ่ม ประกอบกับเคยถูกขอความร่วมมือกึ่งบังคับให้ตรึงราคามาตลอด
แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เตรียมขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ปรับลดราคาสินค้าลง หลังจากราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงนั้น ทางเอกชนผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าส่วนใหญ่ คงจะไม่มีการปรับลดราคาสินค้าลงมาจากเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ปรับราคาสินค้าขึ้นตาม ซึ่งก็เป็นเวลานานแล้วที่สินค้าหลายชนิดไม่มีการปรับราคาขึ้น เพราะต้องตรึงราคาสินค้าตามนโยบายในการขอความร่วมมือเชิงบังคับให้มีการตรึงราคาสินค้าตั้งแต่ 3-6 เดือน เพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชน ของรัฐบาลเกือบทุกสมัย
อีกทั้ง ที่ผ่านมายังต้องรับผลกระทบจากนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแบบก้าวกระโดดเป็นวันละ 300 บาท ที่สร้างภาระต้นทุนอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่ต้นทุนการผลิตสูงกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีทดแทนแรงงานได้
“ปัญหาราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างผิดปกติมาจากเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจระหว่างรัสเซีย กับสหรัฐ หรือ กลุ่มโอเปก กับสหรัฐ แต่หากเมื่อใดที่ประเทศเหล่านี้กลับมาจับมือดีกันเหมือนเดิม ราคาน้ำมันก็อาจขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แบบกะทันหันได้ ดังนั้นหากปรับราคาสินค้าลงแล้วน้ำมันในตลาดโลกกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการก็จะปรับราคาสินค้าขึ้นไม่ได้ ผลที่ตามมาก็จะทำให้ขาดทุนเพิ่มมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ประกอบการอาจจะมีการใช้แผนจัดทำโปโมรชั่นลด แลก แจก แถม เป็นช่วงเวลาแทนการประกาศปรับลดราคาสินค้า เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา และกำลังซื้อของคนในประเทศไทยเองก็ลดลง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ลดลงจากราคาพืชผลทางการเกษตรราคาไม่ดี ทั้ง ข้าว และยางพารา ดังนั้นจากนี้อาจได้เห็นผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง
“ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าบริโภค อุปโภคมองว่า การปรับลดราคาสินค้าลงเป็นเรื่องไม่ยาก แต่การปรับขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จะดำเนินการได้ยากกว่า ดังนั้นจึงเห็นว่าการใช้โปรโมชั่นต่างๆ จะช่วยผู้ประกอบการในภาวะที่การแข่งขันรุนแรงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้”
มีรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) ได้พิจารณาทบทวนรายการสินค้าและบริการควบคุมปี 2558 แล้ว โดยเบื้องต้นจะยังคง และไม่เปลี่ยนแปลงตัวรายการสินค้าและบริการควบคุม 43 รายการ จากรายที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2557 และคาดจะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ประกาศได้ทันในเดือน ม.ค. 2558
โดยสินค้าและบริการควบคุม 43 รายการ ประกอบด้วย 1.หมวดอาหาร เช่น กระเทียม ข้าวเปลือกและข้าวสาร ข้าวโพด มันสำปะหลัง ไข่ไก่ สุกรและเนื้อสุกร และน้ำตาลทราย เป็นต้น 2.หมวดสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน เช่น ผงซักฟอก ผ้าอนามัย กระดาษชำระ 3.หมวดปัจจัยทางการเกษตร อาทิ ปุ๋ย ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช อาหารสัตว์ เครื่องสูบน้ำ และรถเกี่ยวข้าว เป็นต้น 4.หมวดวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ และแผ่นเหล็ก เป็นต้น
5.หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ เช่น กระดาษทำลูกฟูก เยื่อกระดาษ เป็นต้น 6.หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์ 7.หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิง 8.หมวดยารักษาโรค 9.หมวดอื่นๆ คือสินค้าเครื่องแบบนักเรียน และ10. หมวดบริการ 3 รายการ คือ การให้สิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์เพลงเพื่อการค้า บริการรับฝากสินค้าหรือบริการให้เช่าสถานที่เก็บสินค้า และบริการทางการเกษตร
ขณะเดียวกัน ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ยังได้ประกาศระดับการกำกับดูแลสินค้าประจำเดือนม.ค.2558 โดยประกาศให้สินค้าอีก 2 รายการ ได้แก่ นมสด และนมเปรี้ยว เพิ่มเข้ามาเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มส่อเค้าว่าจะมีปัญหา(SL) และต้องติดตามราคาเป็นประจำทุกวัน
