- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 17 March 2024 13:56
- Hits: 7757
พาณิชย์ จับลักลอบขนย้ายหอมหัวใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่งดำเนินคดีทันที
กรมการค้าภายในผนึกกำลังพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมผู้ลักลอบขนย้ายหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 3.5 ตัน นำตัวส่งดำเนินคดีทันที พร้อมตั้งด่านตรวจที่ตลาดไทและตลาดอัยรา เพื่อดูแลและป้องกันราคาผลผลิตในประเทศตกต่ำ ย้ำจะตรวจสอบต่อเนื่อง ทั้งการขนย้ายกระเทียม หอมหัวใหญ่ มะพร้าว ปาล์ม ใครทำผิด เจอเล่นงานหนัก
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา กรมได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบขนย้ายหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตการขนย้าย จำนวน 1 ราย ปริมาณหอมหัวใหญ่ 3.5 ตัน มูลค่าประมาณ 105,000 บาท
และนำตัวผู้ขนย้ายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เพราะการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 29 พ.ศ.2566 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ลงวันที่ 1 ก.ค.2566
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนี้ ยังได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ร่วมกับนายตรวจชั่งตวงวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ตั้งด่านตรวจสอบสกัดกั้นการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรบริเวณตลาดไทและตลาดอัยรา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ด้วย
“การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว เป็นแนวทางในแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำ และรักษาความเป็นธรรมทางการค้าอีกแนวทางหนึ่งของกรม โดยเน้นการป้องปรามไม่ให้มีการขนย้ายนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาเกิดความเป็นธรรมให้แก่เกษตรกร”
นายอุดม กล่าวว่า ขอฝากถึงผู้ประกอบการว่าอย่าลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรโดยผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม หอมหัวใหญ่ มะพร้าว น้ำมันปาล์ม โดยกรมจะประสานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการนำเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
หากพบว่า มีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ส่วนเกษตรกรร หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับ การดำเนินการดังกล่าว เนื่องด้วยในระยะนี้ เป็นช่วงที่ผลผลิตกระเทียมและหอมหัวใหญ่ของไทยกำลังออกสู่ตลาด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในจัดสายตรวจเฉพาะกิจ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่กองชั่งตวงวัด ฝ่ายความมั่นคง และตำรวจทางหลวง
ตรวจสอบการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวดครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกร โดยมุ่งเน้นตรวจสอบในพื้นที่เขตผ่านแดน ทั้งต้นทางและปลายทางการขนย้าย รวมทั้งแหล่งรวบรวมและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่สำคัญ
พาณิชย์ตรวจสอบเข้ม ลุยจับ ขนย้ายพืชหัวที่นำเข้าจากต่างประเทศ
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ด้วยในระยะนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตกระเทียมและหอมหัวใหญ่ของไทยกำลังออกสู่ตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตรกรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรมและยกระดับรายได้ให้เกษตรกร อธิบดีจึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน
สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่กองชั่งตวงวัด ฝ่ายความมั่นคงและตำรวจทางหลวง ตรวจสอบการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวดครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกร โดยมุ่งเน้นตรวจสอบในพื้นที่เขตผ่านแดน ทั้งต้นทางและปลายทางการขนย้าย รวมทั้งแหล่งรวบรวมและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่สำคัญ
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ร่วมกับนายตรวจชั่งตวงวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ตั้งด่านตรวจสอบสกัดกั้นการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรบริเวณตลาดไทและตลาดอัยรา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ซึ่งในวันเดียวกันนี้ กรมการค้าภายในได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบขนย้ายหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตการขนย้าย จำนวน 1 ราย ปริมาณหอมหัวใหญ่ 3.5 ตัน มูลค่าประมาณ 105,000 บาท และนำตัวผู้ขนย้ายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี
ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 29 พ.ศ. 2566 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2566
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวทางในแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำและรักษาความเป็นธรรมทางการค้าอีกแนวทางหนึ่งของกรมการค้าภายใน
โดยเน้นการป้องปรามไม่ให้มีการขนย้ายนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาเกิดความเป็นธรรมให้แก่เกษตรกรและขอฝากถึงผู้ประกอบการว่าอย่าลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรโดยผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม หอมหัวใหญ่ มะพร้าว น้ำมันปาล์ม
โดยกรมการค้าภายในได้ประสานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการนำเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
ทั้งนี้ หากเกษตรกรรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
พาณิชย์ตรวจเข้มการขนย้ายกระเทียมและสินค้าเกษตรที่ควบคุม เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกร
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีได้สั่งการให้ สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและนายตรวจชั่งตวงวัด โดยบูรณาการร่วมกับตำรวจ ปคบ.และตำรวจทางหลวงเฝ้าติดตามตรวจสอบการลักลอบนำเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรควบคุมอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นตรวจสอบในพื้นที่ต้นทางการนำเข้าและเขตผ่านแดน ซึ่งเป็นจุดผ่านการขนย้ายที่สำคัญ อาทิ ด่านศุลกากรวังประจัน จังหวัดสตูล ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา รวมถึงช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน และเส้นทางต่างๆ ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรองที่คาดว่าจะขนย้ายสินค้าเกษตร
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำ ยกระดับรายได้ให้เกษตรกร รักษาความเป็นธรรมทางการค้า และกำชับไปยังผู้ประกอบการนำเข้า และผู้ประกอบการที่รับซื้อสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเปลือกในตอนนี้ที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ซึ่งกรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องเข้มงวด หากพบว่า มีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร หรือไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อ หรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือกที่รับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ กรณีกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
และกรณีรับซื้อข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2498 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการ ซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 อีกด้วย
ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ