- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 17 March 2024 13:28
- Hits: 7447
พาณิชย์โชว์ Soft Power นำปลากะพงสามรสกินกับข้าวไทย โปรโมตเวทีประชุมที่เวียดนาม
กรมการค้าต่างประเทศ โชว์ Soft Power อาหารไทย ปลากะพงสามรสกินกับข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไรซ์เบอร์รี่ ในช่วงการประชุมข้าวนานาชาติ ที่ดานัง เวียดนาม ได้รับความสนใจเพียบ พร้อมจัดประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้าวไทยชนิดต่างๆ ให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้แทนจำหน่าย เผยยังได้หารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม สมาคมอาหารเวียดนาม และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สนับสนุนความร่วมมือการค้าข้าวระหว่างกัน
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการเข้าร่วมงานประชุมข้าวนานาชาติ SS Rice News Convention 2024 ณ เมืองดานัง เวียดนาม ที่มีผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวโลกกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 6-7 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่า งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยวารสาร SS Rice News
ซึ่งเป็นวารสารที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารตลาดข้าวนานาชาติออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายและกระชับความสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าว และเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าวทั้งในด้านการผลิต การค้า ความท้าทายที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวโลกต้องเผชิญในอนาคต รวมทั้งนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการเพาะปลูกข้าวของแต่ละประเทศ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืนของสภาพการค้า
โดยผลจากการเข้าร่วมงานประชุม พบว่า ปัจจัยทางด้านสภาพภูมิอากาศ น้ำ มาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย นโยบายการนำเข้าข้าวจากประเทศผู้นำเข้าข้าวสำคัญ รวมถึงความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการค้าข้าวของโลกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ กรมได้ใช้โอกาสนี้ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ดีและความโดดเด่นของข้าวไทย ทั้งในด้านความหลากหลาย คุณภาพมาตรฐาน และรสชาติ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Taste the Authentic Thai Cuisine with Premium Thai Rice’
โดยจัดแสดงตัวอย่างข้าวไทยชนิดต่าง ๆ อาทิ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวกล้องอินทรีย์ ข้าวขาวพื้นนุ่ม RJ44 รวมถึงข้าวคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าว กข43 เป็นต้น ควบคู่ไปกับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวคุณภาพของโลก ให้แก่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้แทนจำหน่ายในต่างประเทศที่เข้าร่วมงาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดข้าวไทย
รวมทั้งยังได้ส่งเสริมการใช้ Soft Power อาหารไทยผ่านกิจกรรมสาธิตการปรุงอาหารไทย โดยเชฟจากร้านที่ได้รับตรา Thai SELECT นำเสนอเมนูปลากะพงสามรสให้ผู้เยี่ยมชมคูหากรมได้รับประทานคู่กับข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้ที่ได้ทดลองชิมภายในงานเป็นอย่างดี
นายรณรงค์ กล่าวว่า กรมยังได้เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 17 ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม สมาคมอาหารเวียดนาม และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบปะกระชับความสัมพันธ์กับเวียดนาม และได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าวทั้งด้านการผลิตและการค้าระหว่างกัน
นอกจากนี้ ได้หารือถึงความท้าทายที่อาจกระทบต่อการส่งออกข้าวในปี 2567 ของทั้งสองประเทศในฐานะผู้ส่งออกข้าวสำคัญของโลก ซึ่งกรมในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการพาณิชย์พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางการค้าข้าวระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมอาหารเวียดนาม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
นปี 2566 เวียดนามส่งออกข้าวปริมาณ 8.13 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14% โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน และคาดการณ์ว่าในปี 2567 เวียดนามจะมีการส่งออกข้าวประมาณ 6.5–7.0 ล้านตัน
กรมการค้าต่างประเทศนำทัพ โชว์ Soft Power อาหารไทย กินกับข้าวไทย พร้อมเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย – เวียดนาม
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศนำทัพประชาสัมพันธ์ข้าวพรีเมียม ส่งเสริม Soft Power อาหารไทย ในงานประชุมข้าวนานาชาติ ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมค้าข้าวทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 400 ราย และใช้โอกาสนี้เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย – เวียดนาม ครั้งที่ 17 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตและการค้าข้าว ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางการค้าข้าวระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมอาหารเวียดนามในฐานะผู้ส่งออกข้าวสำคัญของโลก
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 – 7 มีนาคม 2567 ได้เข้าร่วมงานประชุมข้าวนานาชาติ SS Rice News Convention 2024 ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวโลกเข้าร่วมงานกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยวารสาร SS Rice News
ซึ่งเป็นวารสารที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารตลาดข้าวนานาชาติออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายและกระชับความสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าว และเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าวทั้งในด้านการผลิต การค้า ความท้าทายที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวโลกต้องเผชิญในอนาคต
รวมทั้งนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการเพาะปลูกข้าวของแต่ละประเทศเพื่อความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืนของสภาพแวดล้อม ซึ่งผลจากการเข้าร่วมงานประชุมฯ พบว่า ปัจจัยทางด้านสภาพภูมิอากาศ น้ำ มาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย นโยบายการนำเข้าข้าวจากประเทศผู้นำเข้าข้าวสำคัญ รวมถึงความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการค้าข้าวของโลกในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในงานประชุมข้าวดังกล่าว กรมการค้าต่างประเทศได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ดีและความโดดเด่นของข้าวไทยทั้งในด้านความหลากหลาย คุณภาพมาตรฐาน และรสชาติ ภายใต้ concept ‘Taste the Authentic Thai Cuisine with Premium Thai Rice’
โดยจัดแสดงตัวอย่างข้าวไทยชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวกล้องอินทรีย์ ข้าวขาวพื้นนุ่ม RJ44 รวมถึงข้าวคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าว กข43 เป็นต้น ควบคู่ไปกับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวคุณภาพของโลก ให้แก่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้แทนจำหน่ายในต่างประเทศที่เข้าร่วมงานฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดข้าวไทย
รวมทั้งยังได้ส่งเสริมการใช้ Soft Power อาหารไทยผ่านกิจกรรมสาธิตการปรุงอาหารไทย โดยเชฟจากร้านที่ได้รับตรา Thai Select นำเสนอเมนูปลากะพงสามรสให้ผู้เยี่ยมชมคูหากรมฯ ได้รับประทานคู่กับข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้ที่ได้ทดลองชิมภายในงานเป็นอย่างดี
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะเข้าร่วมประชุมข้าวนานาชาติและส่งเสริมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยผ่านการจัดกิจกรรมภายในคูหาประชาสัมพันธ์ของกรมฯ แล้ว ในโอกาสนี้ยังได้เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางการค้าข้าวไทย – เวียดนาม ครั้งที่ 17 ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้าเวียดนาม สมาคมอาหารเวียดนาม และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบปะกระชับความสัมพันธ์กับเวียดนาม และได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าวทั้งด้านการผลิตและการค้าระหว่างกัน โดยในปี 2566 เวียดนามส่งออกข้าวปริมาณ 8.13 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากปีก่อน โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน และคาดการณ์ว่าในปี 2567 เวียดนามจะมีการส่งออกข้าวประมาณ 6.5 – 7.0 ล้านตัน
พร้อมทั้งได้หารือถึงความท้าทายที่อาจกระทบต่อการส่งออกข้าวในปี 2567 ของทั้งสองประเทศในฐานะผู้ส่งออกข้าวสำคัญของโลก ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการพาณิชย์พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางการค้าข้าวระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมอาหารเวียดนามเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป