- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 17 March 2024 11:02
- Hits: 7205
ภูมิธรรม ถกทูตสวิส ย้ำสานสัมพันธ์ทุกด้าน เห็นพ้องเร่งสรุปเจรจา FTA ไทย-เอฟตา
ภูมิธรรม ถกทูตสวิส ย้ำเดินหน้าความสัมพันธ์ทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การคค้า ลงทุน และเห็นพ้องเร่งผลักดันการเจรจา FTA ไทย-เอฟตา ที่มีสวิตเซอร์แลนด์เป็นสมาชิกด้วย ให้สรุปผลภายในปีนี้ เชื่อเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พร้อมชวนสวิตเซอร์แลนด์ และสมาชิกเอฟตา เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม หลังรัฐบาลมีนโยบายในการขับเคลื่อนการลงทุน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายเปโตร สวาเล็น เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิส ประจำประเทศไทย ช่วงเย็นวันที่ 13 มี.ค.2567 ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้เพื่อหารือถึงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์
โดยทั้งสองฝ่ายย้ำว่า ให้ความสำคัญอย่างมากกับการเจรจา FTA ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ซึ่งมีสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ และยินดีที่การเจรจามีความมคืบหน้ามากและใกล้จะสรุปผลได้ คาดว่าภายในปี 2567 นี้ ซึ่งจะเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศในยุโรป
ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ยินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจา FTA ได้สำเร็จตามเป้าหมาย เพราะจะเป็นประโยชน์กับไทยและสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศสมาชิก EFTA ในการเพิ่มพูนและสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนยกระดับมาตรฐานสู่สากลเพื่อรองรับกฎกติกาและระเบียบการค้าโลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปและให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการดูแลเกษตรกรและผู้ประกอบการ SME ให้สามารถปรับตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย
สำหรับ ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการพัฒนา ขณะนี้ รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง ไม่ว่าทางบก น้ำ ราง และอากาศ จึงเชิญชวนให้สวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งประเทศสมาชิก EFTA เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูงที่ EFTA มีความเชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์ร่วมกัน และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทำให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวและมีเสถียรภาพ ซึ่งนักลงทุนจากสวิตเซอร์แลนด์ สามารถใช้ประเทศไทยเป็นประตูเชื่อมโยงสู่ภูมิภาคเอเชียด้วย
ในปี 2566 สวิตเซอร์แลนด์ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในยุโรป การค้ารวม 8,946.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปสวิตเซอร์แลนด์ 3,970.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ 4,975.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการค้ารวมไทย–EFTA มูลค่า 9,882.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไป EFTA 4,385.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยนำเข้าจาก EFTA 5,497.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปสวิตเซอร์แลนด์ และ EFTA เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์พลาสติก แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ
สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ และ EFTA เช่น เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เครื่องประดับอัญมณี เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ และสัตว์น้ำ สด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป
ทางด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ในปี 2566 นักลงทุนจากประเทศสมาชิก EFTA เข้ามาลงทุนในไทยเป็นอันดับที่ 14 จากนักลงทุนชาวต่างชาติทั้งหมด จำนวน 20 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวม 2,962 ล้านบาท
โดยสวิตเซอร์แลนด์เสนอขอรับการลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศสมาชิก EFTA และเป็นอันดับที่ 15 จากนักลงทุนชาวต่างชาติทั้งหมด จำนวน 9 โครงการ มีมูลค่าการลงทุน 1,738 ล้านบาท