- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 10 March 2024 08:11
- Hits: 7267
พาณิชย์ โชว์ผลร่วมงานพีอาร์ข้าวไทยในงาน Gulfood 2024 ดูไบ คนแห่ชมเพียบ
กรมการค้าต่างประเทศเผยผลการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาต่อเนื่องกว่า 1,000 ราย ทั้งชม ชิม ข้าวไทย สอบถามเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ราคา มั่นใจช่วยเปิดตลาดข้าวไทยในตะวันออกกลางได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้าวคุณภาพดีและข้าวคุณลักษณะพิเศษ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 19-23 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา ว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ กรมได้นำผู้ประกอบการค้าข้าวไทย จำนวน 24 ราย เข้าร่วมงาน
และได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของข้าวไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย การจัดแสดงตัวอย่างและจัดให้ชิมข้าวไทยชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเหนียว เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์
และได้มีการนำเสนอข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทยและข้าวเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าว กข43 เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น
“ผลการเข้าร่วมงาน ปรากฏว่าคูหาของกรมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า และผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหา โดยมาจากภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชียใต้ แอฟริกา ยุโรป ประมาณกว่า 1,000 คน มีการสอบถามรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณลักษณะและคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย และราคาข้าว รวมทั้งมีการชื่นชมในรสชาติ คุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยด้วย”นายรณรงค์กล่าว
นายรณรงค์ กล่าวว่า ภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพ เนื่องจากชาวอาหรับมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกพืชผลทางเกษตรเพื่อการบริโภค ทำให้ประเทศในแถบนี้ยังต้องนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศประมาณกว่า 7 ล้านตันต่อปี และมีแนวโน้มที่จะนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น
โดยเป็นไปในทิศทางเพื่อสุขภาพและความมั่นคงทางด้านอาหาร แต่เนื่องจากในปี 2566 เกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่ง ประกอบกับเมื่อปี 2565 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากถึงเกือบ 7.5 ล้านตัน
ทำให้มีปริมาณสต็อกข้าวมาก ปริมาณการนำเข้าข้าวของภูมิภาคตะวันออกกลางในปี 2566 จึงลดลงเหลือประมาณ 7.2 ล้านตัน และไทยสามารถส่งออกข้าวไปภูมิภาคตะวันออกกลางได้ประมาณ 1.16 ล้านตัน ลดลง 43% จากปี 2565 ที่ส่งออกประมาณ 2.02 ล้านตัน
ทั้งนี้ การเข้าร่วมงาน Gulfood จะเป็นช่องทางอันดีในการรักษาตลาดข้าวไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง และกระตุ้นความต้องการข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวคุณภาพดีและข้าวคุณลักษณะพิเศษ และเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวไทยให้มากขึ้น ภายหลังสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางคลี่คลาย
สำหรับ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 ณ Dubai World Trade Centre ดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย ‘รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ในการส่งออกไปต่างประเทศ’ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้สร้างโอกาสให้กับสินค้าไทยทุกช่องทาง
โดยงานดังกล่าว เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 5,500 ราย จาก 127 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐฯ รัสเซีย ญี่ปุ่น ตุรกี อินเดีย จีน และไทย เป็นต้น และมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำเข้า และนักธุรกิจมาพบปะเจรจาธุรกิจกว่า 100,000 ราย
คต.บุกดูไบ…ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงาน Gulfood 2024
กรมการค้าต่างประเทศจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในระหว่างวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาต่อเนื่องตลอดงาน
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบาย ‘รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ในการส่งออกไปต่างประเทศ’ ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
โดยการจัดคณะผู้แทนเดินทางไปเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Gulfood 2024 เมื่อวันที่ 19 – 23 กุมภาพันธ์ 2567 ณ Dubai World Trade Centre ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง
โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 5,500 ราย จาก 127 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ญี่ปุ่น ตุรกี อินเดีย จีน และไทย เป็นต้น และมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำเข้า และนักธุรกิจมาพบปะเจรจาธุรกิจกว่า 100,000 ราย
สำหรับ กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกคูหาประชาสัมพันธ์ข้าวไทยภายใต้ Thailand Pavilion ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศซึ่งมีผู้ประกอบการไทยรวม 124 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวไทย จำนวน 24 ราย ทั้งนี้ ภายในคูหาของกรมการค้าต่างประเทศได้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของข้าวไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย
การจัดแสดงตัวอย่างและจัดให้ชิมข้าวไทยชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเหนียว เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ และได้มีการนำเสนอข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทยและข้าวเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าว กข43 เป็นต้น
เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น โดยคูหาของกรมการค้าต่างประเทศได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า และผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาทั่วไปจากในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชียใต้ แอฟริกา ยุโรป ประมาณกว่า 1,000 คน โดยมีการสอบถามรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณลักษณะและคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย และราคาข้าว รวมทั้งมีการชื่นชมในรสชาติ คุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยด้วย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพ เนื่องจากชาวอาหรับมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกพืชผลทางเกษตรเพื่อการบริโภค ทำให้ประเทศในแถบนี้ยังต้องนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศประมาณกว่า 7 ล้านตัน/ปี และมีแนวโน้มที่จะนำเข้าอาหารและสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นโดยเป็นไปในทิศทางเพื่อสุขภาพ และความมั่นคงทางด้านอาหาร
แต่เนื่องจากในปี 2566 เกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลางซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่ง ประกอบกับเมื่อปี 2565 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากถึงเกือบ 7.5 ล้านตัน ทำให้มีปริมาณสต็อคข้าวมากเพียงพอ ปริมาณการนำเข้าข้าวของภูมิภาคตะวันออกกลางในปี 2566 จึงคงเหลือประมาณ 7.2 ล้านตัน และไทยสามารถส่งออกข้าวไปภูมิภาคตะวันออกกลางได้ประมาณ 1.16 ล้านตัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 43 ที่ส่งออกประมาณ 2.02 ล้านตัน
อย่างไรก็ดี การเข้าร่วมงาน Gulfood ในครั้งนี้ จึงเป็นช่องทางอันดีในการรักษาตลาดข้าวไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง และกระตุ้นความต้องการข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวคุณภาพดีและข้าวคุณลักษณะพิเศษในตลาดตะวันออกกลาง และเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวไทยให้มากขึ้นภายหลังสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางคลี่คลาย