- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 05 March 2024 22:59
- Hits: 7359
กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามผลรับซื้อหอมใหญ่ เกษตรกรยิ้ม ราคาขึ้น
กรมการค้าภายในลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามผลการนำผู้ประกอบการเข้ารับซื้อหอมหัวใหญ่จากเกษตรกร ในอำเภอแม่วางและบ้านกาด พบเกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาดีต่อเนื่อง เหมาแปลงขยับขึ้นไป 6-7 หมื่นบาทต่อไร่ จากปีก่อนแค่ 3 หมื่นบาทต่อไร่ ยันผลผลิตที่จะออกมาช่วง มี.ค.นี้ มีแผนรับมือ เตรียมเข้าซื้อกระจายออกนอกแหล่งผลิต มั่นใจดันราคาดีตลอดทั้งฤดูกาล
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามผลการนำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตหอมหัวใหญ่ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แม่วาง และ อ.บ้านกาดพัฒนา ในราคานำตลาด ภายใต้โครงการเชื่อมโยงรับซื้อผลผลิตหอมหัวใหญ่กระจายออกนอกแหล่งผลิต โดยพบว่า ราคาที่เกษตรกรในพื้นที่ขายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมขายเหมาแปลงได้รายได้ประมาณ 30,000 บาทต่อไร่ แต่ปีนี้ราคาที่เกษตรกรขายได้พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 60,000–70,000 บาทต่อไร่
ทั้งนี้ ฤดูกาลผลิตปี 2567 พืช 3 หัวในภาพรวมทั้งประเทศ มีปริมาณ 231,608 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 250,682 ตัน หรือลดลง 8% โดยหอมหัวใหญ่ มีแหล่งผลิตหลักอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ส่วนหอมแดง จ.ศรีสะเกษ เชียงใหม่ และอุตรดิตถ์ และกระเทียม จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน โดยปัจจุบันผลผลิตหอมใหญ่ ในเชียงใหม่ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 25% และผลผลิตจะทยอยออกมากในเดือน มี.ค.2567 โดยจากการหารือกับผู้ประกอบการและเกษตรกร พบว่า ปีนี้ผลผลิตคุณภาพดีมาก เนื่องจากไม่เจอฝนและลูกเห็บ ส่งผลให้ผลผลิตสามารถเก็บได้นานขึ้น และชะลอการจำหน่ายได้ ทำให้ราคาสูงขึ้น
“ผลผลิตหอมหัวใหญ่ จ.เชียงใหม่ จะออกมากในช่วง มี.ค.นี้ โดยกรมได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว ได้ทำการเชื่อมโยงรับซื้อผลผลิตพืช 3 หัว ผ่านกลไกเกษตรพันธสัญญาเป็นการล่วงหน้าในราคานำตลาด ปริมาณรวม 30,175 ตัน ได้แก่ หอมแดง 14,475 ตัน หอมหัวใหญ่ 7,500 ตัน และกระเทียม 8,200 ตัน จากกลุ่มเกษตรกรทั้งหมด 21 กลุ่ม 4 จังหวัด 17 อำเภอ 32 ตำบล เพื่อกระจายไปยังโรงงานแปรรูป ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ห้างท้องถิ่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง รวมไปถึงรถโมบายพาณิชย์”นายกรนิจกล่าว
ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามการรับซื้อผลผลิต และรายงานผลการดำเนินการอย่างใกล้ชิด และเชื่อมั่นว่าจากการเข้าไปดำเนินการรับซื้อภายใต้โครงการดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูการผลิต จะช่วยยันราคาให้อยู่ในระดับสูง รวมทั้งช่วยเพิ่มปริมาณการดูดซับผลผลิตและสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยได้ว่าจะสามารถขายผลผลิตได้ราคาดีตลอดฤดูกาล
นายทรัพย์ อินทนนท์ ที่ปรึกษาสหกร์การเกษตรบ้านกาดพัฒนา จำกัด กล่าวว่า ปีนี้มีผู้ประกอบการเข้ามารับซื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกรมการค้าภายในนำผู้ประกอบการจากทั้งส่วนกลางและในพื้นที่เข้ามารับซื้อตั้งแต่ต้นฤดู ส่งผลให้เกิดการแข่งขัน แย่งผลผลิต ซึ่งปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ ผลผลิตปีนี้คุณภาพดีมาก ไม่เจอฝนและลูกเห็บเหมือนปีก่อน ทำให้ผู้ประกอบการกล้าที่จะซื้อเพื่อไปเก็บได้ถึง 2 เดือน เพื่อไปทำกำไรต่อ ซึ่งปีที่แล้วของคุณภาพไม่ดี เนื่องจากเจอพายุเห็บ คุณภาพชื้น เน่า ไม่สามารถซื้อไปเก็บได้ ส่งผลบวกช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ต่อไร่เพิ่มขึ้นจากเดิม 30,000-40,000บาทต่อไร่ เป็น 60000-70,000 บาทต่อไร่