- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 05 March 2024 22:54
- Hits: 7350
นภินทร เปิดมหกรรมการค้าชายแดน จ.มุกดาหาร หนุนค้าขายไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน
นภินทร เป็นประธานเปิด 'มหกรรมการค้าชายแดน' ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อขับเคลื่อนการค้าชายแดน และผ่านแดน ไปยังสปป.ลาว เวียดนาม และจีน เผยมีกิจกรรมไฮไลต์ ทั้งจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไทยและเพื่อนบ้าน การเจรจาจับคู่ธุรกิจ การจัดสัมมนา และประชุมติดตามสถานการณ์การค้าและศูนย์บริหาร OSS มุกดาหาร-นครพนม ที่พร้อมเปิดรองรับการส่งออกฤดูผลไม้ปีนี้
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิด 'มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร' ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.-3 มี.ค.2567 ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณจังหวัดชายแดน โดยจังหวัดมุกดาหารเป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนที่เป็นหัวเมืองสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมและโลจิสติกส์ที่สามารถเชื่อมโยงไปยัง สปป.ลาว เวียดนาม และจีน
โดยมีเส้นทางขนส่งทางถนนที่สำคัญ คือ เส้นทาง R9 และยังเป็นจังหวัดที่มีจุดผ่านแดนซึ่งเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เป็นประตูการค้าไปสู่ สปป.ลาว และประเทศที่สาม คือ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 เป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าชายแดนและผ่านแดน
กระทรวงพาณิชย์ จึงมีนโยบายในการเร่งรัดผลักดันและส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านการจัดมหกรรมการค้าชายแดน
สำหรับ การจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งแรกของปี 2567 ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร 7 หน่วยงาน คือ กรมการค้าต่างประเทศ จังหวัดมุกดาหาร กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
โดยกิจกรรมหลักภายในงานจะประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ 1.การแสดงและจำหน่ายสินค้าของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 120 คูหา อาทิ อาหารและเครื่องดื่มแปรรูป ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักสาน และผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน และยังมีคูหาให้คำปรึกษาด้านการเงินระหว่างประเทศจาก 3 ธนาคารชั้นนำของไทย คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2.การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนกับผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 3.การสัมมนา ‘ใช้ AI ช่วยค้า กำไรมาทันใจ’
โดยวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำตลาดออนไลน์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และ 4.การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม การติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ OSS มุกดาหาร พร้อมทั้ง การติดตามสถานการณ์การนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านด่านมุกดาหาร ณ คลังสินค้าเร่งด่วน เพื่อติดตามกระบวนการนำเข้า และตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บริโภค
“การจัดมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ และการเปิดบริการของศูนย์ OSS ทั้งสองแห่ง ทั้งที่จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร เพื่อรองรับการส่งออกผลไม้ในฤดูกาลอันใกล้นี้ จะเป็นส่วนขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง อันจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ตลอดจนเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทยกับ สปป.ลาวให้เพิ่มมากขึ้น”นายนภินทรกล่าว
ทั้งนี้ การจัดมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดมุกดาหาร เพราะเป็นจังหวัดชายแดนสอดคล้องนโยบายรัฐบาลในการเปิดประตูการค้าชายแดน 4 ด้าน 4 ประเทศ โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดมุกดาหารมีมูลค่ารวมประมาณ 340,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2567 จะมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนด้านจังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากขึ้น จากความพร้อมของศูนย์บริการ OSS ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ
นภินทร ลงพื้นที่มุกดาหาร ประชุมสถานการณ์การค้า พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานศูนย์ OSS เตรียมรับฤดูกาลส่งออกผลไม้
นภินทร ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร หารือสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดน เร่งอำนวยความสะดวกทางการค้า พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียวจังหวัดมุกดาหาร (Mukdahan Border Trade One Stop Service) เตรียมรับฤดูกาลส่งออกผลไม้ไทยในเดือนหน้า
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน จังหวัดมุกดาหารและนครพนม โดยได้รับฟังสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนจาก 2 ด่าน คือ ด่านมุกดาหารที่มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2566 มากกว่า 340,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37
ในขณะที่ด่านนครพนม มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน มากกว่า 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.5 นอกจากนี้ ในที่ประชุม นายนภินทรฯ ยังได้เร่งผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้า ได้แก่ การเร่งจัดทำ E-Wallet ชำระเงินด้วย QR Code ร่วมกันของธนาคารไทยและธนาคารของ สปป.ลาว ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2567 ซึ่งจะช่วยให้คนลาวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยมากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคไปสู่ระดับ SME
และการเร่งเจรจาให้จีนขยายเวลาเปิดทำการด่านตงซิง เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วงของจีน ในวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อรองรับฤดูกาลผลไม้ไทย พร้อมทั้ง เร่งกำชับการเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเพิ่มเติมนอกเวลาทำการที่ศูนย์ OSS นครพนม ในช่วงฤดูกาลส่งออกผลไม้ ที่มีรถส่งออกผลไม้เฉลี่ยวันละ 200 คัน
พร้อมกันนี้ นายนภินทรฯ ยังได้ติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียวจังหวัดมุกดาหาร (Mukdahan Border Trade One Stop Service) ที่เริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการติดต่อขอเอกสารต่างๆ จาก 3-4 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้กระบวนการส่งออกสินค้าชายแดนและผ่านแดนมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นายนภินทรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด่านมุกดาหาร และด่านนครพนม เป็นอีกเส้นทางสำคัญส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ซึ่งฤดูกาลผลไม้ไทยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ตนจึงได้รีบเร่งรัดและกำชับขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันอำนวยความสะดวก
พร้อมทั้ง มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งการเจรจาการขยายเวลาเปิดด่านตงซิง ซึ่งเป็นอีกด่านที่มีความพร้อมสำหรับนำเข้าผลไม้ไทยที่ส่งออกจากนครพนมรองจากด่านโหย่วอิ๊กวาน ตนมั่นใจว่า ทั้งการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และความพร้อมของศูนย์ OSS ที่นครพนม และมุกดาหาร จะทำให้การส่งออกผลไม้ไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น”
‘นภินทร’ เบิกฤกษ์ มหกรรมค้าชายแดน ครั้งที่ 1 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน-ผ่านแดนมุกดาหาร ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการ OSS มุกดาหาร – นครพนม รองรับส่งออกฤดูกาลผลไม้
29 กุมภาพันธ์ 2024Thailandplusเศรษฐกิจ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิด “มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร” ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567 ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร หวังกระตุ้นการค้าชายแดน ขยายมูลค่า ยกระดับศักยภาพและการอำนวยความสะดวกของด่านชายแดน โดยการจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกจังหวัดมุกดาหารเป็นหนึ่งในจังหวัดที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนในปี 2567
ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนสอดคล้องนโยบายรัฐบาลในการเปิดประตูการค้าชายแดน 4 ด้าน 4 ประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2566 การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดมุกดาหารมีมูลค่ารวมประมาณ 340,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าภายในปี 2567 จะมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนด้านจังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากขึ้น จากความพร้อมของศูนย์บริการ OSS ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ
นายนภินทรฯ เปิดเผยว่า “รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณจังหวัดชายแดน โดยจังหวัดมุกดาหารเป็นหนี่งในจังหวัดชายแดนที่เป็นหัวเมืองสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมและโลจิสติกส์ที่สามารถเชื่อมโยงไปยัง สปป.ลาว เวียดนาม และจีน โดยมีเส้นทางขนส่งทางถนนที่สำคัญ คือ เส้นทาง R9 และยังเป็นจังหวัดที่มีจุดผ่านแดนซึ่งเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เป็นประตูการค้าไปสู่ สปป.ลาว และประเทศที่สาม คือ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 เป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าชายแดนและผ่านแดน
ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศที่มีนโยบายในการเร่งรัดผลักดันและส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านการจัด ‘มหกรรมการค้าชายแดน’
ในปี 2567 การจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งแรกของปี 2567 ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร 7 หน่วยงาน คือ กรมการค้าต่างประเทศ จังหวัดมุกดาหาร กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สำหรับ กิจกรรมหลักภายในงานจะประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ
การแสดงและจำหน่ายสินค้าของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 120 คูหา อาทิ อาหารและเครื่องดื่มแปรรูป ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักสาน และผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน และยังมีคูหาให้คำปรึกษาด้านการเงินระหว่างประเทศจาก 3 ธนาคารชั้นนำของไทย คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนกับผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
การสัมมนา 'ใช้ AI ช่วยค้า กำไรมาทันใจ'โดยวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำตลาดออนไลน์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม การติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ OSS มุกดาหาร พร้อมทั้ง การติดตามสถานการณ์การนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านด่านมุกดาหาร ณ คลังสินค้าเร่งด่วน เพื่อติดตามกระบวนการนำเข้า และตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บริโภค
“การจัดมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ รวมทั้ง ความพร้อมการเปิดบริการของศูนย์ OSS ทั้งสองแห่ง ทั้งที่จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร เพื่อรองรับการส่งออกผลไม้ในฤดูกาลอันใกล้นี้ จะเป็นส่วนขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง อันจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ตลอดจนเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทยกับ สปป.ลาวให้เพิ่มมากขึ้น” นายนภินทรฯ กล่าวทิ้งท้าย