- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 25 February 2024 16:02
- Hits: 8322
พาณิชย์ จับมือ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ คุมเข้มขายสินค้าละเมิด ตรวจเจอเลิกสัญญาเช่า
กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ยกระดับการเฝ้าระวังและตรวจตราการจำหน่ายสินค้าละเมิด กำหนดโทษยกเลิกสัญญาเช่าทันที หากพบมีการขาย พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ หนุนผู้ประกอบการไทยพัฒนาแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าของตนเอง และนำมาจดทะเบียน แนะผู้บริโภคต้องร่วมมือด้วย อย่าซื้อ อย่าใช้ของปลอม และช่วยเป็นหูเป็นตา พบเจอที่ไหนแจ้งได้เลย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้หารือกับผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ เดินหน้ารณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งแต่บัดนี้และตลอดเดือนมี.ค.2567
โดยมุ่งหมายให้ประเทศไทยหลุดจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List : WL) ในการจัดสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ หลังจากในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ชื่นชมต่อพัฒนาการด้านนโยบาย และผลการดำเนินการปราบปรามที่เป็นรูปธรรมของไทย
สำหรับ ความร่วมมือที่เกิดขึ้น ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จะมีการเฝ้าระวังและตรวจตราการจำหน่ายสินค้าละเมิด กำหนดมาตรการยกเลิกสัญญาเช่ากับผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้าละเมิดภายในพื้นที่ศูนย์การค้า จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ถึงโทษและความผิดในการจำหน่ายสินค้าละเมิด รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยมีการพัฒนาแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าของตนเอง และนำมาจดทะเบียนกับกรมเพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอีกหลายมิติ
ทั้งนี้ นอกเหนือจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเจ้าของสิทธิ์ที่จะร่วมกันป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ประชาชนผู้บริโภคถือเป็นแนวร่วมสำคัญที่มีส่วนช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในการเลือกซื้อสินค้าที่ถูกกฎหมาย และไม่สนับสนุนสินค้าละเมิด โดยหากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ MBK ผนึกกำลังเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาหารือผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ยกระดับการป้องปรามสินค้าละเมิดฯ หนุนผู้ประกอบการไทยเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า และต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยอาศัยทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยร่วมมือกับศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ เดินหน้ารณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สิน ทางปัญญา ณ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตั้งแต่บัดนี้และตลอดเดือนมีนาคม 2567 โดยมุ่งหมายให้ประเทศไทยหลุดจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List : WL) ในการจัดสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ซึ่งในปีที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้ชื่นชมต่อพัฒนาการด้านนโยบาย และผลการดำเนินการปราบปรามที่เป็นรูปธรรมของไทย
ทั้งนี้ กรมฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากภาคเอกชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในส่วนของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้มีการเฝ้าระวังและตรวจตรา การจำหน่ายสินค้าละเมิด กำหนดมาตรการยกเลิกสัญญาเช่ากับผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้าละเมิดภายในพื้นที่ศูนย์การค้าจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ถึงโทษและความผิดในการจำหน่ายสินค้าละเมิด รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยมีการพัฒนาแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าของตนเอง และนำมาจดทะเบียนกับกรมฯ เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอีกหลายมิติ
นอกเหนือจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเจ้าของสิทธิแล้ว ประชาชนผู้บริโภคถือเป็นแนวร่วมสำคัญที่มีส่วนช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในการเลือกซื้อสินค้าที่ถูกกฎหมาย และหากประชาชนท่านใดพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายัง กองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368