- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 18 February 2024 08:15
- Hits: 8152
สนค.ชี้เป้าผู้ประกอบการ พัฒนาการให้บริการ เจาะกลุ่มผู้บริโภคแต่ละ Gen
สนค.ชี้เป้าผู้ประกอบการ พัฒนาการให้บริการเจาะกลุ่มผู้บริโภคแต่ละ Gen ให้สอดคล้องกับความต้องการ เผยกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha เติบโตมากับมากับเทคโนโลยี ต้องเน้นบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งสตรีมเกม การให้คำปรึกษาทางไกล ส่วนกลุ่ม Baby Boom เป็นกลุ่มสูงอายุ มีเวลาว่าง และ Gen X เข้าสู่วัยกลางคน บริการดูแลสุขภาพ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประกันภัย มีโอกาส
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ศึกษาแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคใน Gen ต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อแนะนำให้กับผู้ประกอบธุรกิจบริการ ใช้เป็นแนวทางในการปรับตัว และใช้พัฒนาการให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค Gen ต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสในการขยายธุรกิจและมีโอกาสในการเพิ่มรายได้ และยังสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของโลก ที่ภาคบริการมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
สำหรับผู้บริโภคเด็ก Gen ใหม่ ประกอบด้วย Gen Z (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2539-2554) และ Gen Alpha (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2555-2567) คือ Gen ของเด็กที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงานไปจนถึงเด็กที่เกิดใหม่ เป็นกลุ่มช่วงอายุที่มีสัดส่วนร้อยละ 33.8 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในไทย เป็นผู้บริโภคที่มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสูง ทำให้มีช่องทางในการใช้บริการในด้านต่างๆ ได้มาก
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการค้าสินค้าและบริการกับผู้บริโภคในช่วงวัยนี้ โดยผู้บริโภคในวัยข้างต้นมีความเปิดกว้างทางความคิดและให้คุณค่ากับแนวคิดที่สอดคล้องกันระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เช่น มีความสนใจในสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เน้นการใช้สินค้ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงแต่เน้นที่คุณค่าและความเป็นตัวตนที่หาไม่ได้ที่อื่น
โดยธุรกิจบริการที่มีแนวโน้มเติบโตและสอดคล้องกับผู้บริโภค Gen นี้ คือ ธุรกิจบริการที่มีการส่งผ่านทางดิจิทัล (Digitally delivered services) ที่นับรวมธุรกิจบริการทั้งหมดที่ให้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่การสตรีมเกมไปจนถึงการให้คำปรึกษาผ่านระบบทางไกล
ส่วนผู้บริโภค Gen ผู้ใหญ่ทันสมัย ประกอบด้วย Baby Boomer (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2489-2507) และ Gen X (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2508-2523) คือ Gen ของวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มช่วงอายุที่มีสัดส่วนร้อยละ 41.3 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในไทย โดย Baby Boomer เป็นกลุ่มผู้ใช้บริการที่มีเวลาว่างมากขึ้น ชอบทำกิจกรรม และมีกำลังในการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยใช้บริการ Facebook เป็นโซเชียลมีเดียหลักในการรับรู้ข่าวสารใหม่ ๆ จึงสามารถใช้ช่องทางดังกล่าวในการทำการตลาดได้
ขณะที่ Gen X เป็นช่วงวัยกลางคนที่ต้องมีการวางแผนเกษียณหลังการทำงาน วางแผนเรื่องสุขภาพและประกันชีวิต ธุรกิจบริการที่เหมาะกับผู้บริโภคในสองช่วงวัยนี้ อาจเน้นที่ธุรกิจบริการสุขภาพ โดยนอกจากจะเป็นการให้บริการรักษาแล้ว อาจมีการให้บริการบำรุงร่างกายและจิตใจผ่านกิจกรรมเพื่อสุขภาพต่าง ๆ
โดยธุรกิจบริการที่มีแนวโน้มเติบโตและสอดคล้องกับผู้บริโภค Gen นี้ คือ ธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ โดยธุรกิจบริการสุขภาพที่น่าสนใจ อาทิ โทรเวช หรือการแพทย์ทางไกล (telemedicine) เป็นหนึ่งในการให้บริการทางการแพทย์ยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารประกอบกับการให้บริการทางการแพทย์ รวมทั้งธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการที่น่าสนใจ รวมถึงธุรกิจประกันภัยและบำเหน็จบำนาญ ก็เป็นธุรกิจที่อยู่ในความสนใจของ Gen ผู้ใหญ่ทันสมัย
นายพูนพงษ์กล่าวว่า จากแนวโน้มของธุรกิจบริการในปัจจุบัน ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริการต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับทิศทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดย 1.ติดตามแนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงของโลก และแสวงหาความรู้อยู่อย่างสม่ำเสมอ
2.สร้างความร่วมมือกับคู่ค้าที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถร่วมพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกันได้ 3.ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจบริการและสร้างนวัตกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองแนวโน้มใหม่ๆ พัฒนารูปแบบหรือช่องทางการให้บริการผ่านทางดิจิทัล
และปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ 4.ให้ความสำคัญกับคุณค่าและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการทำธุรกิจบริการตอบสนองต่อแนวโน้มใหม่ของโลกที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อาทิ ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สังคมผู้สูงอายุ สุขภาพ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาตามแนวทางให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางส่งเสริมผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาตามแนวโน้มธุรกิจบริการให้สามารถรองรับกับผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งเด็ก Gen ใหม่ และ Gen ผู้ใหญ่ทันสมัย โดยมีสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ที่ช่วยพัฒนาผู้ประกอบการให้ทันต่อแนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ
รวมทั้งมีการอบรมออนไลน์ทางเว็บไซต์ DBD Academy เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ในการทำธุรกิจ ผู้ประกอบการจึงสามารถใช้ช่องทางเหล่านี้ในการแสวงหาข้อมูล ความรู้ และนำไปปรับใช้ในการพัฒนาตนเองและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจต่อไปได้
