- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 25 January 2024 09:14
- Hits: 4057
พาณิชย์-DITP แนะศึกษาโมเดลการทำธุรกิจหม้อไฟในจีน นำปรับใช้ทำร้านอาหารไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในจีน หรือร้านอาหารทั่วไป ศึกษารูปแบบการทำตลาดร้าน ‘หม้อไฟ’ ในจีน ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างไม่คาดคิดทั้งเปิดขายชาชม ขนม มีการแสดงโชว์ หวังสร้างกระแสในโลกโซเชียล เผยหากนำมาปรับใช้ จะยิ่งช่วยสร้างโอกาสในการดึงดูดลูกค้า
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ได้รับรายงานจากนายสกรรจ์ แสนโสภา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงรูปแบบการทำธุรกิจตลาด ‘หม้อไฟ’ ในจีน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในจีนหรือร้านอาหารทั่วไป นำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้า
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันร้านหม้อไฟในจีน มีการนำเสนอรูปแบบการทำธุรกิจที่หลากหลาย และแม้จะขายหม้อไฟอย่างชัดเจน แต่ได้มีการเปิดตลาดอาหารที่ไม่เกี่ยวกับหม้อไฟ ขายขนม เครื่องดื่มที่มีลักษณะที่น่าดึงดูดใจไปพร้อมๆ กันด้วย และยังได้มีการนำเสนออะไรที่น่าสนใจมีมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่เกี่ยวอะไรกับประสบการณ์การกินเลย เช่น การเต้น การทำเล็บ ขัดรองเท้า ทำให้เกิดกระแสทางออนไลน์ และธุรกิจมีคนรู้จักเพิ่มขึ้น ขายได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น หม้อไฟแบรนด์ Haidilao จากเสฉวน ที่ได้เริ่มเปิดสาขาในเมืองซีอาน เจิ้งโจว เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง จากร้านอาหารหม้อไฟธรรมดาๆ กลายเป็นคำค้นหาในโลกโซเชียลที่ร้อนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยบริการตั้งแต่การผูกผม แจกของเล่นไปจนถึงทำเล็บ ขัดรองเท้า หรือดูแลเด็กน้อย
และล่าสุดมีการเต้นบอยแบรนด์ ส่วนร้านหม้อไฟอื่นๆ ได้มีการปรับรูปแบบการตกแต่งร้าน เช่น สไตล์แคมปิ้ง สไตล์ถ้ำ สไตล์ไนต์คลับ หรือบางแห่งเริ่มเปิดที่ดาดฟ้า ยอดเขา ริมแม่น้ำ ริมทะเลสาบ ฟาร์ม รวมทั้งมีการเปิดร้านชานม ร้านขนมหวาน อาหารตุ๋น แผงขายบาร์บีคิว และร้านเหล้า เป็นต้น
“ถ้าพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น รูปแบบอุตสาหกรรมร้านอาหารได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการแข่งขันกันทางตลาดที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติ วัตถุดิบที่สดสะอาด การตกแต่งร้านการบริการครบวงจร การคิดค้นขนม เครื่องดื่มในร้าน หรือแม้กระทั่งการแสดงโชว์ ก็มีผลต่อการเลือกบริโภคของชาวจีน
ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยไทย สามารถเรียนรู้จากแนวทางทำธุรกิจของร้านอาหารจีนต่างๆ เพื่อไปประยุกต์ใช้ในกิจการตัวเอง และควรศึกษาวัฒนธรรม ความเชื่อ พฤติกรรมการเลือกบริโภคและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วย”นายภูสิตกล่าว
สำหรับ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
พาณิชย์ แนะศึกษาโมเดลการทำธุรกิจหม้อไฟในจีน นำปรับใช้ทำร้านอาหารไทยให้ปัง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในจีน หรือร้านอาหารทั่วไป ศึกษารูปแบบการทำตลาดร้าน 'หม้อไฟ'ในจีน ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างไม่คาดคิด ทั้งเปิดขายชาชม ขนม มีการแสดงโชว์ หวังสร้างกระแสในโลกโซเชียล เผยหากนำมาปรับใช้ จะยิ่งช่วยสร้างโอกาสในการดึงดูดลูกค้า
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนายสกรรจ์ แสนโสภา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงรูปแบบการทำธุรกิจตลาด “หม้อไฟ” ในจีน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในจีนหรือร้านอาหารทั่วไป นำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้า
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันร้านหม้อไฟในจีน มีการนำเสนอรูปแบบการทำธุรกิจที่หลากหลาย และแม้จะขายหม้อไฟอย่างชัดเจน แต่ได้มีการเปิดตลาดอาหารที่ไม่เกี่ยวกับหม้อไฟ ขายขนม เครื่องดื่มที่มีลักษณะที่น่าดึงดูดใจไปพร้อมๆ กันด้วย และยังได้มีการนำเสนออะไรที่น่าสนใจมีมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่เกี่ยวอะไรกับประสบการณ์การกินเลย เช่น การเต้น การทำเล็บ ขัดรองเท้า ทำให้เกิดกระแสทางออนไลน์ และธุรกิจมีคนรู้จักเพิ่มขึ้น ขายได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น หม้อไฟแบรนด์ Haidilao จากเสฉวน ที่ได้เริ่มเปิดสาขาในเมืองซีอาน เจิ้งโจว เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง จากร้านอาหารหม้อไฟธรรมดาๆ กลายเป็นคำค้นหาในโลกโซเชียลที่ร้อนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยบริการตั้งแต่การผูกผม แจกของเล่นไปจนถึงทำเล็บ ขัดรองเท้า หรือดูแลเด็กน้อย และล่าสุดมีการเต้นบอยแบรนด์ ส่วนร้านหม้อไฟอื่นๆ ได้มีการปรับรูปแบบการตกแต่งร้าน เช่น สไตล์แคมปิ้ง สไตล์ถ้ำ สไตล์ไนต์คลับ หรือบางแห่งเริ่มเปิดที่ดาดฟ้า ยอดเขา ริมแม่น้ำ ริมทะเลสาบ ฟาร์ม รวมทั้งมีการเปิดร้านชานม ร้านขนมหวาน อาหารตุ๋น แผงขายบาร์บีคิว และร้านเหล้า เป็นต้น
“ถ้าพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น รูปแบบอุตสาหกรรมร้านอาหารได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการแข่งขันกันทางตลาดที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติ วัตถุดิบที่สดสะอาด การตกแต่งร้าน การบริการครบวงจร การคิดค้นขนม เครื่องดื่มในร้าน หรือแม้กระทั่งการแสดงโชว์ ก็มีผลต่อการเลือกบริโภคองชาวจีน ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยไทย สามารถเรียนรู้จากแนวทางทำธุรกิจของร้านอาหารจีนต่างๆ เพื่อไปประยุกต์ใช้ในกิจการตัวเอง และควรศึกษาวัฒนธรรม ความเชื่อ พฤติกรรมการเลือกบริโภคและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วย”นายภูสิตกล่าว