- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 07 January 2024 10:40
- Hits: 4095
ค้าชายแดน-ผ่านแดน พ.ย.66 ยังลด แต่มีข่าวดี สปป.ลาว พลิกบวกรอบ 6 เดือน
กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน เดือน พ.ย.66 มีมูลค่า 148,566 ล้านบาท ลดลง 3.01% แต่มีข่าวดี การค้ากับ สปป.ลาว พลิกกลับมาเป็นบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนการค้าผ่านแดนไปจีน ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง รวม 11 เดือน มีมูลค่า 1,600,241 ล้านบาท ลด 2.61%
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน พ.ย.2566 มีมูลค่า 148,566 ล้านบาท ลดลง 3.01% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 74,305 ล้านบาท ลดลง 16.83% และการนำเข้ามูลค่า 74,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.34% โดยไทยได้ดุลการค้า มูลค่า 44 ล้านบาท และหากแยกเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา มีมูลค่า 78,833 ล้านบาท ลดลง 11.80% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 48,920 ล้านบาท ลดลง 11.04% และนำเข้า มูลค่า 29,912 ล้านบาท ลดลง 13.01% ได้ดุลการค้า 19,008 ล้านบาท ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ มีมูลค่า 69,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.31% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 25,385 ล้านบาท ลดลง 26.10% และนำเข้ามูลค่า 44,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.60% ขาดดุลการค้า 18,964 ล้านบาท
ทั้งนี้ การค้าชายแดนกับ สปป.ลาว ในเดือน พ.ย.2566 กลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 6 เดือน มีมูลค่าการค้ารวม 23,563 ล้านบาท เพิ่ม 3.1% โดยการส่งออก 14,072 ล้านบาท เพิ่ม 2.1% ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวสูง ได้แก่ รถยนต์นั่ง 508 ล้านบาท เพิ่ม 21.6% เนื่องจากมีการเร่งนำเข้ารถยนต์ ในช่วงที่รัฐบาล สปป.ลาว อยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอของกลุ่มผู้นำเข้าที่ขอให้เลื่อนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในกลุ่มสินค้ายานพาหนะที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2566 ออกไปเป็นช่วงเดือน เม.ย.2567 ส่วนการค้าชายแดนกับมาเลเซีย ลด 7.96% เมียนมา ลด 23.08% กัมพูชา ลด 22.82% และการค้าผ่านแดนไปจีน เพิ่ม 14.79% สิงคโปร์ เพิ่ม 16.07% เวียดนาม ลด 13.34%
ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง 11 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 1,600,241 ล้านบาท ลดลง 2.61% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 899,800 ล้านบาท ลดลง 4.52% นำเข้า มูลค่า 700,441 ล้านบาท ลดลง 0.05% ได้ดุลการค้า มูลค่า 199,358 ล้านบาท และหากแยกเป็นการค้าชายแดน มีมูลค่า 855,157 ล้านบาท ลดลง 12.42% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 534,497 ล้านบาท ลดลง 10.59% นำเข้า มูลค่า 320,660 ล้านบาท ลดลง 15.30% ได้ดุลการค้า มูลค่า 213,660 ล้านบาท และการค้าผ่านแดน มูลค่า 745,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.74 แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 365,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.01% นำเข้า มูลค่า 379,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.86% ขาดดุลการค้า 14,479 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.25566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ครั้งที่ 1/2566 ได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการทำงานด้านต่าง ๆ ในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งสอดรับกับ 4 ประเด็นยุทธศาสตร์
ภายใต้ ‘ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567–2570’ ที่มีเป้าประสงค์หลักในการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เป็น 2 ล้านล้านบาท ในปี 2570
นอกจากนี้ ได้รายงานความคืบหน้ารายงานความคืบหน้าประเด็นการค้าชายแดนสำคัญ ๆ ทั้งการยกระดับจุดผ่อนปรนเป็นจุดผ่านแดนถาวร 3 แห่ง การแก้ไขปัญหาความล่าช้าในกระบวนการนำเข้า-ส่งออก ณ ด่านพรมแดนแม่สอด แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก การเชื่อมโยงเอกสารส่งออก-นำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) การสนับสนุนงบประมาณปรับปรุงเส้นทาง R12 (นครพนม–คำม่วน–นำเพ้า) ใน สปป.ลาว
และการเชื่อมโยงการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) ของประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ให้บริการค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) จากการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน ผ่านแดนแบบครบวงจร สามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2566 จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุดรธานี
การค้าชายแดนกับ สปป.ลาว กลับมาขยายตัวในรอบ 6 เดือน +3.1% ประชุมคณะกรรมการชายแดนนัดแรก ตั้งอนุฯ 4 คณะพร้อมขับเคลื่อน จัดตั้ง OSS สำเร็จในปี 2566 แล้ว 8 จังหวัด
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน 148,566 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 74,305 ล้านบาท และการนำเข้ามูลค่า 74,261 ล้านบาท โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนพฤศจิกายน 2566 ทั้งสิ้น 44 ล้านบาท และในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – พฤศจิกายน) มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน 1,600,241 ล้านบาท ลดลง -2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 899,800 ล้านบาท (-4.5%) และการนำเข้า 700,441 ล้านบาท (-0.1%) โดยไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 199,358 ล้านบาท
การค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ (มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา) เดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 78,833 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 48,920 ล้านบาท และการนำเข้ามูลค่า 29,912 ล้านบาท โดยไทยได้ดุลการค้าชายแดนรวม 19,008 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 3,502 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,636 ล้านบาท และเครื่องดื่มอื่นๆ 1,140 ล้านบาท
การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม (จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ) เดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่ารวม 69,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 25,385 ล้านบาท และการนำเข้ามูลค่า 44,348 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกผ่านแดนที่สำคัญ ได้แก่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 5,230 ล้านบาท ยาง T.S.N.R. 3,440 ล้านบาท และไม้แปรรูป 1,778 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2566 การค้าชายแดนกับ สปป.ลาว กลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 6 เดือน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 23,563 ล้านบาท ขยายตัว 3.1% และมูลค่าการส่งออก 14,072 ล้านบาท ขยายตัว 2.1% ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวสูงในเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้แก่ รถยนต์นั่ง 508 ล้านบาท (+21.6%) เนื่องจากมีการเร่งนำเข้ารถยนต์ ในช่วงที่รัฐบาล สปป.ลาว อยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอของกลุ่มผู้นำเข้าที่ขอให้เลื่อนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในกลุ่มสินค้ายานพาหนะที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ออกไปเป็นช่วงเดือนเมษายน 2567
“จากการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการทำงานด้านต่างๆ ในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งสอดรับกับ 4 ประเด็นยุทธศาสตร์
ภายใต้ ‘ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567 – 2570’ ที่มีเป้าประสงค์หลักในการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เป็น 2 ล้านล้านบาท ในปี 2570 นอกจากนี้ ยังได้รายงานความคืบหน้ารายงานความคืบหน้าประเด็น
การค้าชายแดนสำคัญๆ อาทิ การยกระดับจุดผ่อนปรนเป็นจุดผ่านแดนถาวร 3 แห่ง การแก้ไขปัญหาความล่าช้าในกระบวนการนำเข้า-ส่งออก ณ ด่านพรมแดนแม่สอด แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก การเชื่อมโยงเอกสารส่งออก-นำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) การสนับสนุนงบประมาณปรับปรุงเส้นทาง R12 (นครพนม – คำม่วน – นำเพ้า) ใน สปป.ลาว และการเชื่อมโยงการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) ของประเทศเพื่อนบ้าน
รวมถึง การจัดตั้งศูนย์ให้บริการค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service: OSS) จากการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน/ผ่านแดนแบบครบวงจร สามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือนธันวาคม 2566 จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุดรธานี” นายรณรงค์กล่าว