- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 19 December 2023 23:08
- Hits: 2210
ไทย-ออสซี่ ติดตามเปิดตลาดภายใต้ FTA เห็นพ้องร่วมมือเศรษฐกิจ BCG ยานยนต์ไฟฟ้า
ไทย-ออสเตรเลีย ประชุมคณะกรรมการดำเนินการด้านการเข้าสู่ตลาด ภายใต้ FTA พบมีความคืบหน้าทั้งการค้าบริการ การลงทุน การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ การยอมรับคุณสมบัติวิชาชีพ การเคลื่อนย้ายแรงงาน เห็นพ้องร่วมมือเศรษฐกิจ BCG ส่งเสริม SMEs ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร่วมมือยานยนต์ไฟฟ้า และเตรียมจัดกิจกรรมฉลองความตกลง FAFTA ครบรอบ 20 ปี
นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับมอบหมายจาก น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการดำเนินการด้านการเข้าสู่ตลาด (Market Access Implementing Committee : MAIC) ครั้งที่ 4
ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับนายเอียน มอติเมอร์ รักษาการผู้ช่วยปลัดการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย เพื่อติดตามการเปิดตลาดภายใต้ TAFTA และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
ทั้งนี้ ในการประชุม ได้ติดตามการดำเนินการตามพันธกรณีในด้านต่างๆ ภายใต้ TAFTA ซึ่งมีความคืบหน้าด้วยดี ทั้งการค้าบริการและการลงทุน โดยไทยและออสเตรเลียได้เปิดตลาดสาขาบริการเพิ่มเติม ภายใต้ FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และการอำนวยความสะดวกและการตรวจลงตราของผู้เยี่ยมเยือนทางธุรกิจ รวมทั้งการจัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมในคุณสมบัติวิชาชีพด้านวิศวกร ภูมิสถาปนิก และผู้ตรวจสอบปริมาณงาน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือระหว่างกัน
ขณะเดียวกัน ได้เห็นพ้องจะส่งเสริมความร่วมมือที่ช่วยยกระดับและสร้างคุณค่าให้กับ TAFTA โดยเฉพาะการส่งเสริมแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy Model) ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างเครือข่ายและจับคู่ธุรกิจ
การฝึกอบรมและสัมมนาให้ข้อมูลการผลิตและบรรจุภัณฑ์สีเขียว แนวโน้มสินค้าและบริการ BCG ตลาดผู้บริโภคในออสเตรเลีย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการเสริมสร้างผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ให้สามารถปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนสถิตินำเข้าและการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ที่ไทยและออสเตรเลียเป็นภาคี เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและสนับสนุนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบความตกลงต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสที่ TAFTA จะมีผลบังคับใช้ครบรอบ 20 ปี ในปี 2568 เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเผยแพร่ผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ได้มีการแลกเปลี่ยนนโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยไทยได้เชิญชวนออสเตรเลียลงทุนในไทย โดยเฉพาะเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของออสเตรเลียที่ต้องการมุ่งสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2583
ปัจจุบันไทยและออสเตรเลียมี FTA ร่วมกัน 3 ฉบับ คือ ไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งหลังจากที่ TAFTA มีผลบังคับใช้ในปี 2548 การค้าระหว่างไทยและออสเตรเลีย ขยายตัวถึง 186%
โดยมีแนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าเกือบทุกรายการระหว่างกันแล้ว และจะยกเลิกภาษีสินค้าทุกรายการ ภายในปี 2568 ซึ่งถือเป็นความตกลงที่ผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเป็นอันดับต้น ทั้งไทยและออสเตรเลีย
สำหรับ ในปี 2565 ออสเตรเลียเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทย โดยการค้าระหว่างไทยและออสเตรเลีย มีมูลค่า 18,315.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.27% โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลีย มูลค่า 11,187.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากออสเตรเลีย มูลค่า 7,128.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีเครื่องประดับ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และสินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์
.muangthai.co.th" target="_blank" rel="noopener" dir="ltr">