- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 30 November 2023 16:42
- Hits: 2379
พาณิชย์ เดินหน้าแก้ไขกฎหมายหลัก 4 ฉบับ รื้อกฎหมายรอง 31 ฉบับ
พาณิชย์ เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายหลัก 4 ฉบับ ลิขสิทธิ์, สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า เพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องสถานการณ์การค้าปัจจุบัน และอำนวยความสะดวก พร้อมขีดเส้นก่อน 31 ธ.ค.นี้ แก้ไขกฎหมายรอง 31 ฉบับ เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนและภาคธุรกิจ
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำการปรับปรุงกฎหมายที่อยู่ในความดูแล เพื่อให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ ตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา
ซึ่งหลังจากที่ได้มีการพิจารณา พบว่า ในช่วงควิกวิน 100 วันแรกของรัฐบาลชุดนี้ จะเสนอให้มีการปรับปรุง พ.ร.บ. รวม 4 ฉบับ จาก 28 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ , พ.ร.บ.สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ , พ.ร.บ.สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522
ทั้งนี้ ในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ จะยกระดับการคุ้มครองสิทธิ์ของนักแสดงให้มากขึ้น โดยคุ้มครองการบันทึกเสียงของนักแสดงด้วย จากเดิมที่คุ้มครองเฉพาะการแสดงสด เช่น กรณีที่นักร้อง เล่นคอนเสิร์ตบนเวที กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยปัจจุบัน คุ้มครองสิทธิ์เฉพาะการแสดงสดบนเวที แต่หากมีการบันทึกคอนเสิร์ตแล้วนำมาขายต่อ นักร้องคนนั้น อาจไม่ได้รับค่าส่วนแบ่ง หรือไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ แต่การแก้ไขใหม่จะได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ครอบคลุมการบันทึกเสียงด้วย
รวมถึงยังจะช่วยส่งเสริม Soft Power ที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และยังสอดคล้องกับสนธิสัญญาการแสดงและสิ่งบันทึกเสียง (WPPT) ภายใต้องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) และสอดคล้องกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิกาค (RCEP) ที่กำหนดให้สมาชิกต้องเข้าเป็นสมาชิก WPPT และไทยอยู่ระหว่างเตรียมการเข้าเป็นสมาชิก
สำหรับ การแก้ไข พ.ร.บ.สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จะยกระดับการดูแลคุณภาพสินค้า GI ของไทย และคุ้มครองตราสัญลักษณ์ GI เพื่อทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในสินค้า GI และคุ้มครองตราสัญลักษณ์ได้ดีขึ้น รวมถึงจะมีผลดีต่อการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศอื่นๆ ที่ไม่ต้องกำหนดรายชื่อสินค้า GI ไทยที่จะได้รับความคุ้มครองใหม่ๆ เพิ่มเติม แต่จะได้รับการคุ้มครองอัตโนมัติจากประเทศที่ไทยมี FTA ด้วย เช่น สหภาพยุโรป (EU) ที่ไทยอยู่ระหว่างเจรจา และ EU มีสินค้า GI จำนวนมาก ถ้าแก้ไขกฎหมายและเจรจา FTA สำเร็จ ต่อไปสินค้า GI ไทย ก็จะได้รับการคุ้มครองอัตโนมัติ
ขณะที่ พ.ร.บ.สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มีบทบัญญัติบางข้อที่ขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงต้องแก้ไขให้ถูกต้อง และ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและนำเข้าฯ จะแก้ไขให้สามารถนำเงินสมทบของภาคเอกชนในกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มาใช้ในกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกได้มากขึ้น
“การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายทุกฉบับ กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดรับฟังความจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ได้คิดจะแก้ไขเอง จากนั้นจึงจะนำความเห็นที่ได้มาสรุป และเสนอขอความเห็นชอบจาก รมว.พาณิชย์ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ แล้วเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่อไป”นายกีรติกล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายระดับรอง เช่น ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ประกาศกรม กฎกระทรวง รวม 31 ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชน ลดขั้นตอน สร้างความโปร่งใส และธรรมาภิบาล ซึ่งจะมีผลต่อการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจในไทย (Ease of Doing Business) โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.2566 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ
ส่วน พ.ร.บ.อื่นๆ ที่เหลือ จะดำเนินการปรับปรุงในระยะต่อไป หรือภายในเวลา 6-18 เดือน เช่น พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มและการอุดหนุน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นต้น