- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 29 October 2023 17:07
- Hits: 2414
9 เดือนปี 66 ต่างชาติลงทุนไทย 493 ราย นำเงินเข้า 8.4 หมื่นล้าน จ้างงาน 5,703 คน
นภินทร เผยช่วง 9 เดือนปี 66 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รวม 493 ราย เพิ่ม 13% นำเงินเข้า 84,013 ล้านบาท ลด 15% จ้างงานคนไทย 5,703 คน เพิ่ม 41% และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นองค์ความรู้เฉพาะให้กับไทยเพียบ ส่วนธุรกิจที่มาลงทุน สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายส่งเสริมการลงทุน
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้รายงานผลการพิจารณาอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ในช่วง 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 493 ราย เพิ่มขึ้น 13%
แยกเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 166 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 327 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 84,013 ล้านบาท ลดลง 15% จ้างงานคนไทย 5,703 คน เพิ่มขึ้น 41%
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 111 ราย คิดเป็นร้อยละ 23 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด เงินลงทุน 22,929 ล้านบาท สหรัฐฯ 80 ราย ร้อยละ 16 เงินลงทุน 3,986 ล้านบาท สิงคโปร์ 77 ราย ร้อยละ 16 เงินลงทุน 20,513 ล้านบาท จีน 38 ราย ร้อยละ 8 เงินลงทุน 13,377 ล้านบาท และฮ่องกง 20 ราย ร้อยละ 4 เงินลงทุน 5,369 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม และองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาในการใช้งานยางล้ออากาศยาน เป็นต้น
สำหรับ ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในช่วง 9 เดือนของปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย บริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ เชื่อมระบบ และการเปิดใช้งาน ตลอดจนการบริหารจัดการสำหรับโครงการรถไฟฟ้า บริการก่อสร้าง
รวมทั้ง ติดตั้ง และทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษา เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และสำหรับที่ใช้ในสถานพยาบาล บริการซอฟต์แวร์ ประเภท Enterprise Software และ Digital Content บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ในช่วง 9 เดือน มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน จำนวน 99 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มีมูลค่าการลงทุน 16,140 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 41 ราย ลงทุน 6,728 ล้านบาท จีน 18 ราย ลงทุน 1,990 ล้านบาท ฮ่องกง 6 ราย ลงทุน 4,046 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 34 ราย ลงทุน 3,376 ล้านบาท
โดยธุรกิจที่ลงทุน เช่น 1.บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ 2.บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบ และทดลองการใช้งานเครื่องอัดอากาศ และดำเนินการวิเคราะห์ทางวิศวกรรม เป็นต้น 3.บริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับผลิตชื้นส่วนยานยนต์ 4.บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโลหะ และ 5.บริการทางวิศวกรรม โดยการให้คำปรึกษาและแนะนำ การออกแบบ การปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร (Modifies) สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
ทั้งนี้ เฉพาะเดือนก.ย.2566 อนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 59 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 37 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 18,229 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง มีการจ้างงานคนไทย 1,219 คน
รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยของก๊าซในอุตสาหกรรม องค์ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและการออกแบบโรงประกอบฐานล่างของรถยนต์ไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรกลทางการเกษตรและอุปกรณ์ต่อพ่วงทางการเกษตร และองค์ความรู้เกี่ยวกับการกลึงลานด้วยเครื่องจักรสำหรับการกลึงข้อต่อ เป็นต้น