- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 21 October 2023 20:55
- Hits: 2319
พาณิชย์ รับฟังความเห็น ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ FTA ไทย-เปรู ฉบับใหม่
กรมการค้าต่างประเทศยก (ร่าง) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ FTA ไทย-เปรู ฉบับปรับปรุงใหม่ หลังเพิ่มเติมกฎถิ่นกำเนิดสินค้าให้ทันสมัย ที่มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ และมีการปรับพิกัดศุลกากรใหม่เป็น HS 2017 พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันนี้ถึง 2 พ.ย.66 ก่อนที่ความตกลงฉบับแก้ไขจะมีผลบังคับใช้ 15 พ.ย.นี้
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้จัดทำ (ร่าง) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเปรูและพิธีสารระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐเปรูเพื่อเร่งการเปิดเสรีการค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้า พ.ศ. …
เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form TP) ให้สอดคล้องกับพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 4 สำหรับผู้ประกอบการในการขอใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและส่งออกไปยังสาธารณรัฐเปรู
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดทำ (ร่าง) ประกาศดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสม จึงขอเชิญหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมทั้งผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศ ผ่านระบบกลางของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (www.law.go.th) และเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (www.dft.go.th) ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.–2 พ.ย.2566 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4818
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2565 ไทยและเปรูได้ลงนามในพิธีสารเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 ภายใต้พิธีสารระหว่างระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐเปรู ซึ่งเป็นการปรับปรุงแก้ไขความตกลงว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย-เปรู (Thailand-Peru Closer Economic Partnership : TPCEP) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปรับปรุงข้อบทกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าและกฎถิ่นกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้า (Product Specific Rules : PSRs) ให้มีความทันสมัยทัดเทียมกับความตกลงการค้าเสรี (FTA) ฉบับอื่นๆ ของไทย โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือก่อให้เกิดพันธกรณีเพิ่มเติมแต่อย่างใด
โดยสาระสำคัญได้แก่ 1.ปรับปรุงและเพิ่มเติมข้อบทกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการค้าในปัจจุบันและในอนาคต อาทิ อนุญาตให้ใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ใช้การลงนามและประทับตราด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature and Seal : ESS) และเพิ่มเติมข้อบทให้รองรับการจัดทำหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-CO) ในอนาคต เพื่อให้ข้อบทด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลง TPCEP มีความทันสมัยเท่าเทียมกับความตกลง FTA ฉบับอื่นๆ ที่ไทยเป็นภาคี
2.ปรับโอนพิกัดศุลกากรของกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้าจากระบบฮาร์โมไนซ์ 2007 (HS 2007) เป็นระบบฮาร์โมไนซ์ 2017 (HS 2017) ซึ่งเป็นการดำเนินการทางเทคนิคให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติขององค์การศุลกากรโลกที่มีการปรับโอนพิกัดศุลกากรเป็นประจำทุก 5 ปี โดยฝ่ายไทยและฝ่ายเปรูเห็นพ้องกันที่จะกำหนดวันมีผลบังคับใช้ของพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 4 ในวันที่ 15 พ.ย.2566