- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 19 October 2023 09:17
- Hits: 1981
ภูมิธรรม สั่งรับมือส่งออก หลังสงครามยังวุ่น พร้อมทำแผนเจาะตลาด ช่วย SMEs ค้าขาย
ภูมิธรรม สั่งการกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประเมินผลกระทบการค้า และมาตรการรับมือ หลังความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ยังไม่จบ พร้อมทำแผนขยายตลาด เน้นเจาะเมืองรอง พ่วงจัดคณะผู้แทนการค้าไปเคาะประตู ย้ำต้องช่วย SMEs ให้มีโอกาสส่งออก เร่งขับเคลื่อนงานดิจิทัล อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ ลุยปั๊มยอดส่งออกโค้งสุดท้าย ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 1.24 หมื่นล้านบาท และเร่งทำเป้าส่งออกปี 67 และมาตรการขับเคลื่อน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์การส่งออกของไทย หลังจากเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และได้รับรายงานเบื้องต้นว่าการค้าไทยกับอิสราเอล ไม่มีผลกระทบ แต่ให้ไปดูว่าจะมีผลกระทบต่อการค้าไทยกับประเทศอื่นๆ หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อโลก จะได้เตรียมแผน เตรียมาตรการรับมือ และหากมีปัญหาจะแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในภาพรวม
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ไปหาทางเร่งขยายตลาด เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก มีเป้าหมาย เช่น จีน ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย เอเชียใต้ เป็นต้น โดยขอให้ไปศึกษาโอกาสของไทยอยู่ตรงไหน เน้นเมืองรองของประเทศต่างๆ และให้ใช้กลไกของทูตพาณิชย์ที่มีอยู่ไปตรวจสอบ ไปศึกษา และพิจารณาจัดทำ MOU กับเมืองรองต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเปิดประตูการค้าให้กับไทย ส่วนตนพร้อมที่จะเดินสายสร้างสัมพันธ์และจัดคณะผู้แทนการค้าไปโรดโชว์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้ส่งออกอีกทาง
ขณะเดียวกัน ได้ขอให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้มีโอกาสส่งออก เพราะตรงกับนโยบายรัฐบาลที่เน้นการสร้างรายได้ โดยการเข้าไปอบรม การพัฒนา จะต้องวัดผลได้ ไม่ใช่ดูแค่ปริมาณ ต้องดูคุณภาพด้วยว่าอบรมแล้ว พัฒนาไปแล้ว มีการเติบโตยังไง มีโอกาสขยายการส่งออกมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้ ยังได้ขอให้มีการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน โดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำระบบดิจิทัลมาให้บริการให้กับประชาชน ทั้งข้อมูลการค้า ข้อมูลการตลาด การเข้าร่วมงานต่าง ๆ ทั้งการอบรม สัมมนา งานแสดงสินค้า ที่จะต้องมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งให้ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับ SMEs สินค้าชุมชน ผ่านช่องทางการส่งออกปกติ และทางออนไลน์ และเร่งขับเคลื่อน Soft Power ของไทย ทั้งงานออกแบบ อาหารไทย ภาพยนตร์และเกม แฟชัน หนังสือ และการท่องเที่ยว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในส่วนของการขับเคลื่อนการส่งออกในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ได้สั่งการให้ทำแผนเร่งด่วน (Quick Win) เพื่อผลักดันการส่งออก โดยได้รับรายงานว่า จะมีการดำเนินกิจกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 73 กิจกรรม จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้กว่า 12,400 ล้านบาท โดยมีกิจกรรมสําคัญ เช่น การจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
การจัดคณะผู้แทนการค้าไปเยือนงานแสดงสินค้า China International Import Expo (CIIE 2023) ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน การนําผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เช่น Automechanika ดูไบ , American Film Market ที่สหรัฐฯ Anuga และ Medica ในเยอรมนี รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้า TOP Thai บนแพลตฟอร์ม Shopee ในมาเลเซีย Rakuten ในญี่ปุ่น เป็นต้น
สำหรับ การจัดทำเป้าหมายการส่งออก และแผนงานขับเคลื่อนการส่งออกปี 2567 ได้มอบนโยบายให้มีการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลก ให้ทำการประเมินแนวโน้มการส่งออก ความต้องการของคู่ค้า และแผนงานที่จะนำมาใช้ขับเคลื่อน โดยคาดว่าน่าจะสรุปได้ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.2566