WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 ปลดพ้นบัญชีWL

ไทยสบช่อง ถกสหรัฐฯ เร่งต่ออายุโครงการ GSP ขอปลดพ้นบัญชี WL

ไทยสบช่องช่วงประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสภายใต้กรอบ TIFA ขอสหรัฐฯ เร่งต่ออายุโครงการ GSP หลังสิ้นสุดมาตั้งแต่ปี 63 ขอให้ปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) ด้านทรัพย์สินทางปัญญา และเพิ่มความร่วมมือแก้ปัญหาประเทศที่ 3 แอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าไทย การปรับปรุงมาตรฐานแรงงาน ด้านสหรัฐฯ เผยอยู่ระหว่างเสนอกฎหมายต่ออายุ GSP และจะเพิ่มเงื่อนไขด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน

      นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสไทย-สหรัฐฯ ภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (TIFA) เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2566 ณ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ

โดยมีนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พร้อมด้วยผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม ส่วนฝ่ายสหรัฐฯ มีนางซาร่าห์ เบียนคิ รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เป็นประธานเปิดการประชุม

         สำหรับ การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน หลังจากที่ไม่มีการประชุมมากว่า 4 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยไทยได้ขอให้สหรัฐฯ เร่งรัดต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อปี 2563

เพื่อให้ผู้ส่งออกสินค้าไทยและผู้นำเข้าสหรัฐฯ ยังคงได้รับประโยชน์และแต้มต่อจากโครงการนี้ โดยสหรัฐฯ แจ้งว่า ยังอยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายต่ออายุโครงการ GSP ต่อรัฐสภาของสหรัฐฯ และอาจมีการปรับเพิ่มเงื่อนไขเรื่องการคุ้มครองแรงงาน สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และการต่อต้านทุจริต ไว้ในโครงการ GSP ที่จะต่ออายุใหม่

นอกจากนี้ ไทยได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาถอดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา (Watch List : WL) เนื่องจากในรอบปีที่ผ่านมา ไทยมีพัฒนาการด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ดีและเข้มข้นขึ้น รวมทั้งยังได้จัดทำแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งสหรัฐฯ ได้ตระหนักถึงพัฒนาการของไทยเป็นอย่างดี

       ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้หารือเรื่องการเพิ่มความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศที่สามแอบอ้างใช้แหล่งกำเนิดสินค้าจากไทย เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดของสหรัฐฯ (anti-circumvention) และการปรับปรุงมาตรฐานการคุ้มครองแรงงาน ซึ่งสหรัฐฯ เห็นถึงความพยายามของไทยในการยกระดับการคุ้มครองแรงงาน ผ่านการปรับปรุงกฎหมายด้านแรงงาน โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทำความเข้าใจระหว่างกันต่อไป

       ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนของปี 2566 (ม.ค-ก.ค.) การค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ มีมูลค่า 38,707.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 26,905.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 11,801.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องโทรสาร และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์

 

Click Donate Support Web  

gpf 720x100 66

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!