- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 25 July 2023 19:29
- Hits: 1256
พาณิชย์ ดัน'กล้วยหอมทอ' ขายญี่ปุ่น นำผู้นำเข้าลงพื้นที่โคราช สนใจซื้อ 5 พันตัน
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้าผลักดัน'กล้วยหอมทอง'เจาะตลาดญี่ปุ่น หลังที่ผ่านมา ยังส่งออกได้ไม่เต็มโควตาที่ได้รับภายใต้ JTEPA ล่าสุดนำผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้ความรู้แก่เกษตรกร ลงพื้นที่ดูแปลงปลูก วางแผนซื้อทันที 5,000 ตัน
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้าผลักดันผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรมเพื่อเปิดตลาดกล้วยหอมไทย ที่ จ.นครราชสีมา
โดยทูตพาณิชย์ ได้นำผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากญี่ปุ่นมาบรรยายให้ความรู้ด้านการตลาดและการพัฒนากล้วยตามความต้องการของตลาดญี่ปุ่นให้กับเกษตรกร และยังได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมการเพาะปลูกและพูดคุยกับเกษตรกร เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพในการผลิต และเพิ่มโอกาสในการส่งออกกล้วยหอมทองของไทยไปตลาดญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นต่อไป
ก่อนหน้านี้ ในช่วงการจัดงาน THAIFEX-Anuga Asia 2023 เมื่อเดือนพ.ค.2566 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมการพบปะเจรจาการค้าระหว่างบริษัทผู้นำเข้าญี่ปุ่นรวม 10 บริษัท และผู้ส่งออกไทยรวม 23 บริษัท 38 ราย
โดยกล้วยและผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปของไทยได้รับความสนใจสั่งซื้อเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จึงได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์เร่งรัดการซื้อขายดังกล่าวเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และหาโอกาสในการขยายตลาดกล้วยของไทยเข้าสู่ญี่ปุ่นเพิ่ม จึงนำมาซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
ทั้งนี้ ไทยและญี่ปุ่น มีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ให้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีนำเข้ากล้วยจากไทยเป็นจำนวน 8,000 ตันต่อปี แต่ที่ผ่านมา ไทยใช้โควตาดังกล่าวไม่เกิน 3,000 ตันต่อปี จึงยังเหลือโควตาไม่ต้องเสียภาษีอีกถึง 5,000 ตัน
นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว กล่าวว่า ญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจกล้วยจากไทยเป็นอย่างมาก เพราะชาวญี่ปุ่นนิยมทานกล้วยมากถึงปีละกว่า 1 ล้านตัน แต่สามารถปลูกเองได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้ากล้วยจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเริ่มมีราคาสูงขึ้น
อีกทั้ง ในปัจจุบันมีไทยเพียงประเทศเดียวในโลก ที่ยังสามารถปลูกกล้วยหอมทองได้ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่เคยได้ลองทานแล้ว ต่างมีความเห็นว่าเป็นกล้วยที่มีรสชาติอร่อยกว่ากล้วยหอมเขียวที่วางขายอยู่ในตลาด จึงมีความมั่นใจว่ากล้วยไทย จะสามารถเข้าไปตีตลาดญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน หากมีการควบคุมคุณภาพการผลิตและมีผลผลิตที่เพียงพอต่อการส่งออก
สำหรับ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะพาผู้นำเข้าชาวญี่ปุ่นให้มาลองชิมและให้มาเห็นถึงวิถีการผลิตกล้วยของไทยว่ามีมาตรฐานและมีการควบคุมคุณภาพที่ดี เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจสำหรับการสั่งซื้อในระยะยาวแล้ว ยังได้นำผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นด้านกล้วยโดยเฉพาะ ซึ่งในอดีตเคยเป็นผู้บุกเบิกการนำกล้วยจากฟิลิปปินส์เข้าไปเปิดตลาดญี่ปุ่นจนสามารถครองตลาดได้มาจนถึงทุกวันนี้ มาให้คำแนะนำเทคนิคการเพิ่มผลผลิตและยกระดับการรักษาคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยของไทยด้วย
“ผู้นำเข้าญี่ปุ่นที่ได้เดินทางมาเห็น และได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยใน จ.นครราชสีมา ต่างรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะได้เห็นถึงความพร้อมของพื้นที่ๆ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี และได้เริ่มวางแผนการสั่งซื้อกล้วยจากไทยเพิ่มขึ้นอีก 5,000 ตันต่อปีโดยทันที”นายฉันทพัทธ์กล่าว
นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นที่แนวภูเขาไฟเก่า ซึ่งมีดินอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย จึงทำให้กล้วยที่ปลูกที่นี่มีสารอาหารและมีรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร และจากการที่ได้มีการพูดคุยกับผู้นำเข้าชาวญี่ปุ่น ทำให้ได้ทราบความต้องการของตลาด ซึ่งสอดรับกับความพร้อมของจังหวัดอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปลูกที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 500 เมตร ซึ่งทางญี่ปุ่นเชื่อว่าจะช่วยให้กล้วยมีคุณภาพดีและมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น หรือพื้นที่เพาะปลูกแปลงใหญ่ที่อยู่ในระยะรัศมีเดียวกันที่มีขนาดรวมแล้วไม่น้อยกว่า 625 ไร่ ซึ่งจะให้ผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการและสามารถส่งมอบกล้วยที่มีความสดใหม่ได้ดี
“จากประสบการณ์ที่ได้ส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยในจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง ได้เห็นถึงความตั้งใจจริง และความพร้อมในการส่งออกอย่างมาก และเมื่อมาผนวกกับองค์ความรู้ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นจากกิจกรรมในครั้งนี้ จึงมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพัฒนาและยกระดับให้กล้วยของจังหวัดนครราชสีมาให้มีมาตรฐานการผลิตที่อยู่ในระดับสากล และจะสามารถครองใจผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอน”นายศารุมภ์กล่าว