- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 19 July 2023 22:33
- Hits: 1474
พาณิชย์ ย้ำกำกับดูแลอุตสาหกรรมเหล็กไทยอย่างเป็นธรรม ทั้งฝั่งผู้นำเข้าและฝั่งผู้ผลิต
กรมการค้าต่างประเทศยืนยันกำกับดูแลอุตสาหกรรมเหล็กอย่างเป็นธรรม ทั้งการนำเข้าสินค้าเหล็กจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ของดีมีคุณภาพ ราคาเหมาะสม และการป้องกันสินค้าเหล็กนำเข้าที่เข้ามาทุ่มตลาดหรือหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด เพื่อดูแลผู้ผลิตในประเทศ
นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ในฐานะหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกทางการค้า ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้า จะกำกับและดูแลอุตสาหกรรมเหล็กของไทยอย่างเป็นธรรม โดยฝ่ายผู้นำเข้า หากมีการนำเข้าตามกลไกของราคาปกติ ไม่มีการทุ่มตลาดหรืออุดหนุนด้านราคา ก็จะสนับสนุนการนำเข้าที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบหรือข้อตกลงทางการค้า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคให้ได้ของมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
และฝ่ายผู้ผลิตในประเทศ หากมีข้อกังวลหรือได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ที่เกิดจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยอาจเป็นการทุ่มตลาดหรือมีการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ก็สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อกำหนดในการยื่นคำขอให้กรมฯ เปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) หรือใช้มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AC) ได้
ทั้งนี้ หากพบว่า มีการทุ่มตลาดหรือมีการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ในการดำเนินการไต่สวน เพื่อกำหนดใช้มาตรการ AD หรือ AC กรมฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนตามที่ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนด ซึ่งเป็นกระบวนการที่โปร่งใส รับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย
และข้อมูลที่นำมาใช้พิจารณามีการตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนในขั้นตอนการเปิดไต่สวน เมื่อกรมฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลคำขอของผู้ยื่นคำขอแล้ว พบว่า ครบถ้วนถูกต้อง ก็จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาด (ทตอ.) เพื่อพิจารณาเปิดไต่สวนต่อไป
“ขอให้ภาคเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้ความเชื่อมั่นในการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าเหล็ก ที่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และหากพบมีการทุ่มตลาดหรือหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด กรมฯ ก็จะดำเนินกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ”นายนพดลกล่าว
ข้อมูลสถิติจาก Worldsteel Association รายงานว่า ปี 2565 ประเทศที่มีการนำเข้าเหล็กสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สหภาพยุโรป 48.1 ล้านตัน สหรัฐฯ 28.9 ล้านตัน และเยอรมัน 21 ล้านตัน ส่วนไทยมีการนำเข้าเหล็กในปริมาณ 13.4 ล้านตัน เป็นอันดับที่ 8 ของโลก และการนำเข้าเหล็กของไทยในช่วง 5 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-พ.ค.) พบว่า มีปริมาณการนำเข้า 4.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.33% โดย 3 ประเทศหลักที่ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าสูงสุด ได้แก่ 1.จีน 42.76% 2.ญี่ปุ่น 37.31% และ 3.เกาหลีใต้ 12.15% จากการนำเข้ารวมทั้งหมด
ส่วนจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเหล็กรายใหญ่ของโลก ในช่วง 5 เดือนของปี 2566 มีการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 29.7 ล้านตัน โดย 5 ประเทศแรกที่จีนมีการส่งออกมากที่สุด ได้แก่ 1.เกาหลีใต้ 3 ล้านตัน สัดส่วน 10.10% 2.เวียดนาม 2.7 ล้านตัน สัดส่วน 9.26% 3.ตุรกี 2.2 ล้านตัน สัดส่วน 7.35% 4.ไทย 1.8 ล้านตัน สัดส่วน 6.28% และ 5.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1.3 ล้านตัน สัดส่วน 4.54% ของการส่งออกรวมทั้งหมด