- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 19 July 2023 22:32
- Hits: 1477
อาเซียนเดินหน้าจัดทำกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเล ชงผู้นำเคาะ ก.ย.นี้
อาเซียนเดินหน้าจัดทำกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเล เน้นการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความเชื่อมโยงในภูมิภาค มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าชงกรอบความร่วมมือเสนอผู้นำอาเซียนเคาะเดือน ก.ย.นี้
นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเลของอาเซียน (The ASEAN Blue Economy Forum) ระดับรัฐมนตรี และระดับปลัดกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ณ เมืองเบลีตุง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเลของอาเซียน (ASEAN Blue Economy Framework) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ (Priority Economic Deliverables : PEDs) ที่อาเซียนจะผลักดันให้สำเร็จ และตั้งเป้าเสนอให้ผู้นำอาเซียนรับรอง ในช่วงเดือนก.ย.2566
ทั้งนี้ การประชุมระดับรัฐมนตรี อาเซียนได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากนานาชาติ เช่น องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OEDC) โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) Standford Center for Ocean Solutions และสำนักงานผู้ประสานงานสหรัฐฯ ประจำสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันแนวทางปฏิบัติของแต่ละประเทศ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคทะเล เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างรอบด้านและยั่งยืน โดยเห็นพ้องจะร่วมกันผลักดันกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคให้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ของภูมิภาคในอนาคต
ส่วนการประชุมระดับปลัดกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ได้หารือถึงความเห็นต่อร่างกรอบความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น การพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางทะเลและแหล่งน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำประมง และใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความเชื่อมโยงกันในภูมิภาค
ทั้งการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว การเสริมสร้างศักยภาพผู้ที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคทะเล และการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติ
สำหรับ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเลของอาเซียน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและยกระดับเศรษฐกิจในภาพรวม รวมทั้งอุตสาหกรรมประมงไทยจะมีความยั่งยืน และช่วยรักษาสภาพแวดล้อมทางทะเลมากขึ้น โดยภูมิภาคอาเซียน มีพื้นที่กว่า 66% เป็นมหาสมุทรและทะเล และคิดเป็น 2.5% ของพื้นที่มหาสมุทรโลก
ซึ่งสินค้าประมงกว่า 15% ของโลกมาจากอาเซียน และมีจำนวนแรงงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกว่า 625 ล้านคน โดยในปี 2565 ไทยส่งออกสินค้าประมงไปโลก มูลค่า 304,116 ล้านบาท และมีแรงงานในภาคประมงกว่า 2 แสนคน อาทิ ผู้ขึ้นทะเบียนผู้ทำการประมง จำนวน 117,118 คน และแรงงานในเรือประมง จำนวน 88,301 คน