- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 25 December 2014 19:02
- Hits: 2022
สั่งแจ้งความเจ๊งจำนำข้าว'บิ๊กตู่'เผยขาดทุน 6.8 แสน ล.ฟันแพ่ง-อาญา
บ้านเมือง : 'บิ๊กตู่'เปิดตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว 6.8 แสนล้านบาท ระบุจากการตรวจสอบมี 4 เกรด ทั้งข้าวผ่านมาตรฐาน ข้าวเสื่อมสภาพ ผิดมาตรฐาน ข้าวปรับปรุงได้ และผิดชนิดข้าว สั่งแจ้งความดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งเป้า 3 ปี ระบายข้าวค้างสต๊อกให้หมด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว วางเป้าระบายข้าวค้างสต๊อกหมดใน 3 ปี ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการพิจารณาเรื่องข้าว โดยมองถึงสถานการณ์ข้าวโลก ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาข้าวในระยะยาวที่ต้องแก้ทั้งระบบ และการขออนุมัติระบายข้าว ซึ่งเรื่องการระบายข้าวนี้ผ่านขั้นตอนทางกฎหมายมาแล้ว หลังมีการปิดบัญชีข้าวครั้งสุดท้าย ซึ่งพบว่ามีข้าวที่เหลืออยู่ประมาณ 17 ล้านตัน และสามารถแบ่งข้าวออกเป็น 4 เกรดคือ ข้าวผ่านมาตรฐาน ข้าวเสื่อมสภาพ ผิดมาตรฐาน ข้าวปรับปรุงได้ และผิดชนิดข้าว โดยจะกำหนดออกเป็น เอ บี ซี โดยอาจขายตามมาตรฐาน บี ปรับปรุงข้าว และซี แจ้งความดำเนินคดี โดยจะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย ซึ่งทั้งหมดได้ส่งไปยังกระบวนการยุติธรรมแล้ว ทั้งนี้ผลจากการปิดบัญชีข้าวพบว่า มีตัวเลขขาดทุนโดยประมาณ 6.8 แสนล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจกับจีนในวันนี้จะมีเรื่องการขายข้าว โดยจีนจะรับซื้อข้าวจำนวน 2 ล้านตัน โดยเป็นการตกลงแบบจีทูจีหรือรัฐต่อรัฐ ซึ่งจะมีขั้นตอนการดำเนินการต่อไปไม่ใช่ลงนามวันนี้จะขายได้ทันที เช่นเดียวกับการลงนามเรื่องรถไฟความเร็วปานกลางกับจีน ก็ต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันอีก การลงนามข้อตกลงกับจีนอย่ามองเพียงการขายข้าวอย่างเดียว แต่ชาวนาต้องปรับปรุงคุณภาพข้าว เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐาน มีความแตกต่าง เพื่อให้ราคาสูงขึ้นและส่งออกแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยขณะนี้ราคาข้าวไทยสูงกว่าราคาตลาดประเทศเวียดนาม และในปีหน้าเชื่อว่าจะมีการแย่งชิงการส่งออกข้าวสูง เพื่อให้เป็นอันดับ 1 และวันนี้แนวโน้มไทยยังจะเป็นอันดับ 1 ในการส่งออกข้าว
นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความมั่นใจว่า นโยบายข้าวที่รัฐวางไว้วันนี้จะไม่ทำให้รัฐบาลขาดทุน เพราะไม่ใช่การรับจำนำข้าว แต่ในเชิงปฏิบัติจะต้องช่วยเหลือกัน ไม่ให้เกิดการทุจริต ซึ่งข้าวที่เหลือมีการวางแผนระบายไว้แล้วว่า จะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่เกิน 3 ปี โดยการระบายข้าวจะคำนึงถึงผลผลิตในประเทศที่จะออกมาด้วย ส่วนแนวทางการระบายข้าวนอกจากขายต่างประเทศแล้ว จะเพิ่มการขายในประเทศ โดยเปิดตลาดข้าวสำหรับเกษตร ที่จะขายในชุมชน เพื่อให้ราคาดี พร้อมพอใจกับราคาข้าวเปลือกที่วันนี้มีราคา 8,500 บาทต่อตัน
ด้าน น.ส.ชุติมา บุญยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในคลังสินค้ากลางมีข้าวทั้งหมดประมาณ 17 ล้าน 8 หมื่นตัน แบ่งเป็นข้าว ที่ผ่านมาตราฐานประมาณ 2 ล้านตัน ไม่ผ่านมาตรฐานประมาณ 14 ล้านตัน และเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ หรือข้าวเสียประมาณ 694,000 ตัน ซึ่งข้าวที่ไม่ผ่านมาตราฐาน คือ ข้าวที่ต้องปรับปรุงคุณภาพ โดยคณะอนุกรรมการระบายข้าวแบ่งข้าวออกเป็น เกรดเอ 6.1 ล้านตัน ซึ่งหากนำมาปรับปรุงเล็กน้อยก็จะสามารถนำเข้าสู่ตลาดการค้าปกติได้ ส่วนเกรดบี 3.6 ล้านตัน จะต้องนำมาปรับปรุง และนำไปตีราคาก่อนนำขายออกสู่ตลาด ส่วนเกรดซี 4.3 ล้านตัน ถือเป็นข้าวที่หากนำไปปรับปรุงก็ไม่คุ้มค่า ซึ่งทางคณะกรรมการ นบข.จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการขายข้าวออกสู่ตลาดจะต้องระบายข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อข้าวรอบปกติ ส่วนการดำเนินคดีจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือดำเนินคดี ในส่วนของข้าวเสื่อมคุณภาพหรือข้าวเสีย กับข้าวที่ไม่ผ่านมาตราฐานเกรดซี ทั้งนี้ตัวเลขการสรุปจำนวนข้าวและความเสียหายทั้งหมดอย่างละเอียดจะต้องรอการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าวในช่วงบ่ายอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นข่าวรัฐบาลจะกลับไปใช้วิธีระบายข้าวแบบเก่า คือ การประมูลขายแบบยกคลัง โดยให้เอกชนเป็นผู้เสนอราคาซื้อ ขณะที่รัฐมีราคาขายในใจหากราคาเหมาะสมให้เคาะขายได้ แต่หากต่ำกว่าที่รัฐตั้งไว้ ไม่ต้องขายวิธีการนี้รัฐจะไม่ต้องรับผิดชอบคุณภาพข้าว โดยอ้างเหตุผลว่าข้าวในสต๊อกรัฐบาลมีมาก เป็นเหตุให้ราคาข้าวตกต่ำ