- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 04 July 2023 17:19
- Hits: 2694
กรมพัฒน์ฯ ลุยต่อหาตลาดให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เน้นเจาะผู้สูงอายุ รักสุขภาพ ออกกำลังกาย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าหาตลาดให้ผลิตภัณฑ์ทำจากสมุนไพรไทย เน้นเจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้รักสุขภาพ และผู้ออกกำลังกาย รับสังคมสูงวัย คนดูแลสุขภาพ หลังผลตอบรับสุดปัง ช่วงนำออกโชว์ในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 200 ล้านบาท มั่นใจเป็น Soft Power ได้อีกตัว
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะเดินหน้าหาตลาดให้กับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในเชิงรุก โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายใน 3 กลุ่ม คือ ผู้สูงอายุ ผู้รักสุขภาพ และผู้ออกกำลังกาย ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยที่มีความนิยมใช้สมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพเน้นการป้องกันตัวมากกว่าการรักษา ทำให้เป็นปัจจัยและโอกาสสำคัญที่จะสร้างให้สมุนไพรไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร มุ่งสร้างผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้สามารถเติบโตและขยายตลาดไปต่างประเทศได้ ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก เริ่มจากรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการมากกว่า 100 ราย ที่ผลิตภัณฑ์มีความพร้อมด้านประโยชน์หรือสรรพคุณของสมุนไพร มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการตลาด จากนั้นบ่มเพาะความรู้ให้ทันโลกการค้ายุคใหม่ ชี้ให้เห็นโอกาสทางการตลาด
ความสำคัญของกฎระเบียบและมาตรฐานเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่ผลิตภัณฑ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยมีผู้ประกอบการจำนวน 42 ราย ได้เข้าสู่การเป็น DBD SMART Local HERB ต่อมาได้ช่วยขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ e-catalog คลิปวิดีโอ ภาพประชาสัมพันธ์ และการนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อช่วยสร้างความนิยมให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จัก ทั้งผู้บริโภคชาวไทยและต่างประเทศ
“ผลจากการนำผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมบูท 1,275 ราย มีผู้มาเจรจาการค้า 272 ราย แบ่งเป็นนักธุรกิจไทย 117 ราย นักธุรกิจต่างชาติ 155 ราย เช่น จีน สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และอินเดีย
และมีการซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพร 203.31 ล้านบาท จากการเจรจาการค้าซื้อขายผลิตภัณฑ์ได้ทันทีมูลค่า 34.31 ล้านบาท และต่อยอดมูลค่าการค้าได้อีกใน 1 ปีข้างหน้าจำนวน 169 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีการซื้อขายมากที่สุด คือ ขมิ้นชันผง น้ำมะขามป้อม ขนมจากขิง เครื่องดื่มจากจมูกข้าว และเครื่องแกง”นายทศพลกล่าว
สำหรับ ผลของการนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้า แสดงให้เห็นว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่ยังเป็นที่ต้องการของนักธุรกิจต่างชาติ สามารถต่อยอดไปเป็นอาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมหรือภาคบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างธุรกิจ Health & Wellness ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อน Soft Power ของไทยได้อีกสินค้าหนึ่ง รวมทั้งจะช่วยผลักดันนโยบายครัวโลก และศูนย์กลางบริการทางการแพทย์และสุขภาพของไทยได้
ปัจจุบัน ข้อมูลการจดทะเบียน ณ วันที่ 9 มิ.ย.2566 มีธุรกิจผลิตและแปรรูปสมุนไพร ที่จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 1,000 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 7,600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำนวน 891 ราย คิดเป็นร้อยละ 89.10 ของธุรกิจในกลุ่มนี้ และในปี 2565 มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นจากสถิติจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ที่มีจำนวน 214 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 74 ราย คิดเป็นร้อยละ 49.65
