- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 04 July 2023 17:05
- Hits: 2536
สนค.ชี้เทรนด์ตลาดดิจิทัลมาแรง แนะใช้โฆษณาดิจิทัลสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ
สนค.ศึกษาวิเคราะห์เทรนด์การค้ายุคใหม่ พบมูลค่าการใช้จ่ายด้านโฆษณาดิจิทัลทั่วโลก รวมถึงไทย ขยายตัวต่อเนื่อง แนะผู้ประกอบการไทยใช้โฆษณาดิจิทัล เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารให้ผู้บริโภค เข้าถึงสินค้า สร้างการรับรู้และเพิ่มแรงกระตุ้นในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ศึกษาวิเคราะห์เทรนด์การค้ายุคใหม่ พบว่า มูลค่าการใช้จ่ายด้านโฆษณาดิจิทัลทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มีการขยายตัวต่อเนื่อง และนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยสถิติในปี 2564 มีการใช้จ่ายด้านโฆษณาดิจิทัลทั่วโลกอยู่ที่ 5.225 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.358 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2569
สำหรับ การเติบโตของโฆษณาดิจิทัลดังกล่าว สอดคล้องกระแสตลาดโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงก่อนและหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยข้อมูลผลสำรวจมูลค่างบโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของประเทศไทยประจำปี 2565 จากสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) (DAAT) ร่วมกับบริษัท คันทาร์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ประเทศไทยมีมูลค่าการใช้จ่ายด้านโฆษณาโดยรวมมากถึง 25,729 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อนหน้า และคาดการณ์ว่า การใช้จ่ายด้านโฆษณาดิจิทัลจะเติบโตร้อยละ 7 จนมีมูลค่า 27,481 ล้านบาท ในปี 2566
ทั้งนี้ เมื่อจำแนกตามการลงทุนในแต่ละช่องทางการลงโฆษณาบนสื่อดิจิทัลในไทย พบว่า ช่องทางโฆษณาบนสื่อดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2565 ได้แก่ 1) Meta (Facebook และ Instagram) 8,748 ล้านบาท 2) YouTube 3,546 ล้านบาท 3) สังคมออนไลน์ (Social) 2,209 ล้านบาท 4) วิดีโอออนไลน์ (Online Video) 2,162 ล้านบาท และ 5) โปรแกรมค้นหา (Search) 1,650 ล้านบาท
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า การใช้เงินโฆษณาบนช่องทาง TikTok ในปี 2565 มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าการโฆษณาอยู่ที่ 1,048 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 189 จากปีก่อนหน้า
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ตัวเลขการเติบโตที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าในยุคที่การตลาดดิจิทัลมีความสำคัญและมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการประกอบธุรกิจนั้น โฆษณาดิจิทัลได้กลายเป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างแรงกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการทำการตลาดผ่านช่องทางนี้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากโฆษณาดิจิทัลไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถกำหนดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ แต่ยังมีความยืดหยุ่นทั้งในด้านต้นทุนและระยะเวลาในการสร้างโฆษณา รวมทั้งผู้ประกอบการยังสามารถใช้ประโยชน์จากโฆษณาดิจิทัลได้เพิ่มเติม อาทิ การนำข้อมูลผลตอบรับหรือยอดขายที่ได้จากการทำโฆษณามาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคและวางแผนเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“การขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจดิจิทัลถือเป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วนควรให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ซึ่งภาครัฐเองก็มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและขับเคลื่อนการค้าในยุคดิจิทัลเช่นกัน โดยควรทบทวน ปรับปรุง และพัฒนาระเบียบ กฎเกณฑ์ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการตลาดให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยมุ่งเน้นให้เกิดการอำนวยความสะดวกทางการค้าควบคู่ไปกับการรักษาความเป็นธรรมทางการค้าและคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปทราบถึงสิทธิ หน้าที่ ช่องทางการร้องเรียน
ตลอดจนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของภาคเอกชนก็ควรเร่งพัฒนาตนเองให้ทันต่อยุคสมัย โดยสามารถเข้าร่วมหลักสูตรอบรมของกระทรวงพาณิชย์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการดำเนินธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่ และเลือกใช้เทคโนโลยีรวมถึงช่องทางการโฆษณาดิจิทัลที่เหมาะสมกับธุรกิจและกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะเป็นการยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของตนเองให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”นายพูนพงษ์กล่าว