- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 04 July 2023 16:48
- Hits: 2145
พาณิชย์ จับมือ 6 บิ๊กอสังหาฯ ช่วยระบายผลไม้ใต้ นำขายคนในหมู่บ้าน-คอนโดฯ
กรมการค้าภายในประสานบิ๊กอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ 6 ราย รวม 54 หมู่บ้าน 25 คอนโดมิเนียม ช่วยระบายผลไม้ภาคใต้ ตั้งเป้าขายให้กับ 5 หมื่นครัวเรือน ปริมาณ 5 พันตัน เผยยังมีแผน 2 นำขายผ่านห้างท้องถิ่น 600 สาขา ปั๊มน้ำมัน 5 พันแห่ง และโมบายพาณิชย์ 100 จุด มั่นใจดันราคาดีขึ้นต่อเนื่อง
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือกับผู้บริหารและเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ จำนวน 6 ราย ได้แก่ บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด , บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชัน จำกัด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แมเนจเม้นท์ (AP) จำกัด ที่เป็นเจ้าของหมู่บ้านรวม 54 หมู่บ้าน และคอนโดมิเนียรวม 25 แห่ง ให้เข้ามาช่วยกระจายผลไม้ภาคใต้เข้าสู่ครัวเรือนที่อยู่ในหมู่บ้านและคอนโดฯ รวม 50,000 ครัวเรือน เป้าหมายปริมาณรวม 5,000 ตัน
“เดิมกรมฯ เคยไปคุยกับนิติบุคคลของแต่ละหมู่บ้าน แต่ละคอนโดมิเนียม ซึ่งต้องเข้าไปคุยแต่ละแห่ง มันเสียเวลา ก็เลยนัดคุยกับผู้บริหารและเจ้าของโครงการไปเลย สรุปเขาพร้อมช่วย โดยจะเปิดพื้นที่ในหมู่บ้าน บริเวณคอนโดฯ ให้เอาผลไม้ไปวางขาย แล้วกรมฯ จะประสานนำผลไม้มาจำหน่ายทุกวันๆ ละ 200-300 ตัน กระจายไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อรองรับผลผลิตผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด และมั่นใจจะช่วยผลักดันให้ราคาสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง”นายวัฒนศักย์กล่าว
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้ผลไม้ภาคใต้กำลังออกสู่ตลาด โดยทุเรียน ผลผลิตออกแล้วประมาณ 30-40% มังคุด 50% เงาะ 30-40% ซึ่งที่ผ่านมา กรมฯ ได้เข้าไปดูแล และเร่งระบายผลผลิตออกนอกพื้นที่ ทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
โดยทุเรียน เกรด AB ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 120-125 บาท เกรด C กก.ละ 90-100 บาท เกรด D กก.ละ 75-80 บาท มังคุดรุ่นแรก เกรดมัน เฉลี่ย กก.ละ 60-95 บาท สูงสุด 120 บาท เกรดคละ กก.ละ 35 บาท และเงาะ กก.ละ 30-35 บาท
สำหรับ มาตรการดูแลผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาด กรมฯ ยังคงใช้มาตรการหลัก คือ ประสานผู้ประกอบการ ทั้งผู้ส่งออก ล้ง โรงงานแปรรูป ห้างค้าส่งค้าปลีก ผู้ค้าส่ง เข้าไปซื้ออย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการเสริมอีกหลายมาตรการ
โดยการประสานกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในมาตรการเสริม ที่ได้ทำเพิ่มในปีนี้ และเชื่อว่าจะเป็นตัวระบายผลผลิตผลไม้ได้เป็นอย่างดี และยังมีแผนระบายผลผลิตผ่านห้างท้องถิ่น ที่มีอยู่กว่า 600 สาขาทั่วประเทศ ปั๊มน้ำมันที่มีสาขารวมกันกว่า 5,000 สาขา รวมถึงโมบายพาณิชย์ ที่มี 100 จุด
“การระบายผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตั้งเป้าไว้ 5,000 ตัน ส่วนใหญ่จะเน้นรองรับผลผลิตมังคุดรุ่น 2 ในพื้นที่นครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะเกรดส่งออก ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว มีคนเข้าไปซื้ออยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา แต่เกรดคละ ก็ต้องเข้าไปดูแล เพราะเวลาออก จะออกมาก ออกพร้อมๆ กัน ถ้าระบายผ่านอสังหาริมทรัพย์ไม่หมด ก็ยังมีดาบสอง ขายผ่านห้างห้องถิ่น ขายผ่านปั๊ม ผ่านโมบายพาณิชย์ ถ้าระบายออกจุดละ 10-20 ตันต่อวัน ระบายทุกวัน แปบๆ ก็หมด”นายกรนิจกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของทุเรียน มั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะตลาดมีความต้องการ ทั้งการส่งออกไปจีน ที่ปัจจุบันยังต้องการมาก มีผู้ส่งออก มีล้งเข้ามารับซื้อต่อเนื่อง รวมถึงห้องเย็น ที่ซื้อไปเก็บ เพื่อไว้ส่งออกช่วงที่ผลผลิตหมดฤดูกาล
สถานการณ์ผลผลิตผลไม้ภาคใต้ ปี 2566 คาดว่าจะมีปริมาณรวม 895,118 ตัน เพิ่มขึ้น 77% แยกเป็นมังคุด ปริมาณ 142,077 ตัน เพิ่ม 409% ทุเรียน ปริมาณ 667,338 ตัน เพิ่ม 49% เงาะ ปริมาณ 52,804 ตัน เพิ่ม 96% และลองกอง ปริมาณ 32,899 ตัน เพิ่ม 1,497%
โดยสาเหตุที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก เพราะปี 2565 ที่ผ่านมา ผลไม้ภาคใต้ประสบภัยธรรมชาติ ทำให้ผลผลิตเสียหายและปริมาณลดลง ส่วนปีนี้ ที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ถือเป็นผลดีกับเกษตรกร ที่จะมีรายได้มากขึ้น ชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปในปีที่แล้ว