- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 07 June 2023 08:39
- Hits: 1763
เงินเฟ้อพ.ค.66 เพิ่ม 0.53% ชะลอตัว 5 เดือนติด ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อพ.ค.66 เพิ่ม 0.53% ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน หลังราคาน้ำมัน ค่าไฟ สินค้าหมวดอาหารชะลอตัวลง และฐานปีก่อนสูง ส่วนเฉลี่ย 5 เดือน เพิ่ม 2.96% คาดแนวโน้ม มิ.ย. ยังทรงตัวในระดับนี้ จากนั้นบางเดือนอาจได้เห็นเงินเฟ้อใกล้เลข 0 ส่วนเป้าทั้งปี ที่ตั้งไว้เดิม 1.7-2.7% ค่ากลาง 2.2% ขอดูสถานการณ์เดือนมิ.ย.ก่อน คาดปรับลดแน่
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพ.ค.2566 เท่ากับ 107.19 เทียบกับเม.ย.2566 ลดลง 0.71% เทียบกับเดือนพ.ค.2565 เพิ่มขึ้น 0.53% ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 21 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.2564 ที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 1.68% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง การลดลงของค่าไฟฟ้า สินค้าในหมวดอาหารราคาชะลอตัว และฐานราคาในเดือนพ.ค.2565 ที่ใช้ในการคำนวณเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) เพิ่มขึ้น 2.96%
สำหรับ เงินเฟ้อเดือน พ.ค.2566 ที่สูงขึ้น 0.53% มาจากการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 3.99% ชะลอตัวจากเดือนเม.ย.2566 ที่สูงขึ้น 4.53% โดยสินค้าที่ราคาสูงขึ้น เช่น ผักและผลไม้ (มะนาว ต้นหอม มะเขือ แตงโม เงาะ) ไข่ไก่ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดไม่มากนัก ประกอบกับความต้องการเพิ่มขึ้นจากการเปิดภาคเรียน เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟ/ชา (ร้อน/เย็น) น้ำอัดลม กาแฟผงสำเร็จรูป) และอาหารบริโภคในบ้าน (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวแกง/ข้าวกล่อง ก๋วยเตี๋ยว) ราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น เนื้อสุกร ปลาช่อน น้ำมันพืช มะขามเปียก มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) กล้วยน้ำว้า ทุเรียน และชมพู่
ส่วนสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.83% ตามการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มดีเซล แก๊สโซฮอล์ และเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า แป้งผัดหน้า หน้ากากอนามัย และค่าสมาชิกเคเบิลทีวี ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น เช่น ก๊าซหุงต้ม ค่าโดยสารสาธารณะ (เครื่องบิน แท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง รถเมล์เล็ก/สองแถว เรือ) ค่าการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด (สารกำจัดแมลง น้ำยาล้างห้องน้ำ) และค่าบริการส่วนบุคคล (ค่าแต่งผมชาย/สตรี ค่าทำเล็บ)
ทั้งนี้ ในส่วนของเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนพ.ค.2566 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.2566 ถือว่าราคาค่อนข้างนิ่ง และเพิ่มขึ้น 1.55% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.2565 รวม 5 เดือนเพิ่มขึ้น 1.98%
นายวิชานัน กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.2566 คาดว่า จะเริ่มทรง ๆ ตัว ไม่เหมือนเดือนพ.ค.2566 ที่ลงมาแรง ซึ่งตัวเลขอาจจะต่ำกว่าเดือนพ.ค. หรือสูงกว่าเล็กน้อย หรือบางเดือนหลังจากนี้อาจจะเห็นตัวเลขใกล้ ๆ เลข 0 ก็ได้ โดยมีปัจจัยที่มีผลทำให้เงินเฟ้อลดลง ยังคงเป็นน้ำมัน ที่วันนี้ขึ้น พรุ่งนี้ลง ตอนนี้ยังมีความไม่ชัดเจน แม้ล่าสุดโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตลงมา แต่ก็ยังมีภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่จะฉุดความต้องการใช้ ฐานเงินเฟ้อปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง ก็จะมีผลทำให้เงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้นมาก และมาตรการลดค่าครองชีพภาครัฐ หากมีมาตรการแรง ๆ ออกมา ก็จะช่วยฉุดเงินเฟ้อลงอีก เช่น ลดค่าไฟ
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น คือ ภัยแล้ง ที่จะกระทบสินค้าเกษตรและอาหาร ที่จะปรับตัวสูงขึ้น อุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากก๊าซหุงต้ม หรือในอนาคต จะมีเรื่องค่าแรง ซึ่งต้องติดตามดู เพราะยังไม่มีการปรับขึ้น และหากจะปรับขึ้น จะปรับขึ้นอย่างไร ขึ้นทีเดียว หรือตามขั้นบันได
สำหรับ การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 ขณะนี้กำหนดไว้ที่ระหว่าง 1.7–2.7% ค่ากลาง 2.2% แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน เงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับลดลง โดยไตรมาส 1 เงินเฟ้อ 3.88% ไตรมาส 2 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1% กว่า ๆ ไตรมาส 3 และ 4 เฉลี่ยไม่เกิน 1% ทำให้ทั้งปีน่าจะลดลง โดยขอดูความชัดเจนในเดือนมิ.ย.2566 ก่อน และจะพิจารณาปรับเป้าหมายอีกครั้ง แต่มีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดลง
พาณิชย์เผย 3 ปัจจัย ส่งผลให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน 🛒🛍️📊💰
ดัชนี ราคาผู้บริโภคของไทย เดือนพฤษภาคม 2566 เท่ากับ 107.19 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเท่ากับ 106.62 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.53 (YoY) ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 21 เดือน สาเหตุสำคัญมาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และค่ากระแสไฟฟ้า รวมทั้ง ราคาสินค้าในหมวดอาหารชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับฐานราคาที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม 2565 อยู่ระดับสูง ทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัวค่อนข้างมาก
อัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ (ข้อมูลล่าสุดเดือนเมษายน 2566) พบว่า ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อระดับต่ำ และต่ำที่สุดในอาเซียน จาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข ทั้ง สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม
อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.53 (YoY) มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้
📊 หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
สูงขึ้นร้อยละ 3.99 (YoY) ตามการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ อาทิ ผักและผลไม้ (มะนาว ต้นหอม มะเขือ แตงโม เงาะ) ไข่ไก่ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดไม่มากนัก ประกอบกับความต้องการเพิ่มขึ้นจากการเปิดภาคเรียน เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟ/ชา (ร้อน/เย็น) น้ำอัดลม กาแฟผงสำเร็จรูป) และอาหารบริโภคในบ้าน (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวแกง/ข้าวกล่อง ก๋วยเตี๋ยว) ราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง อาทิ เนื้อสุกร ปลาช่อน น้ำมันพืช มะขามเปียก มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) กล้วยน้ำว้า ทุเรียน และชมพู่
📊 หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม
ลดลงร้อยละ 1.83 (YoY) ตามการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ อาทิ น้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มดีเซล แก๊สโซฮอล์ และเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า แป้งผัดหน้า หน้ากากอนามัย และค่าสมาชิกเคเบิลทีวี
ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น อาทิ ก๊าซหุงต้ม ค่าโดยสารสาธารณะ (เครื่องบิน แท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง รถเมล์เล็ก/สองแถว เรือ) ค่าการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด (สารกำจัดแมลง น้ำยาล้างห้องน้ำ) และค่าบริการส่วนบุคคล (ค่าแต่งผมชาย/สตรี ค่าทำเล็บ)
เงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้นร้อยละ 1.55 (YoY) ชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนเมษายน 2566 ที่สูงขึ้นร้อยละ 1.66 (YoY)
ดัชนี ราคาผู้บริโภคในเดือนนี้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ลดลงร้อยละ 0.71 (MoM) ตามราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ที่ลดลงร้อยละ 1.59 โดยเฉพาะราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มดีเซล แก๊สโซฮอล์ เบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า และสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด (ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างห้องน้ำ) สำหรับสินค้าที่ราคาสูงขึ้น อาทิ โฟมล้างหน้า แป้งทาผิวกาย และสบู่ถูตัว
ขณะที่ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.51 อาทิ ผักและผลไม้ (ผักชี ต้นหอม ผักคะน้า ส้มเขียวหวาน ทุเรียน มังคุด) ไข่ไก่ อาหารโทรสั่ง และเครื่องปรุงรส ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง อาทิ เนื้อสุกร กระเทียม มะม่วง น้ำมันพืช และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สำหรับเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค.) ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 2.96 (AoA)
📊 แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน ปี 2566
คาดว่า จะชะลอตัวต่อเนื่อง หรือมีโอกาสหดตัวได้ ตามการลดลงของสินค้าในกลุ่มพลังงงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มลดลงและอยู่ระดับต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก และค่ากระแสไฟฟ้าที่ปรับลดลงจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ฐานราคาที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน 2565 ค่อนข้างสูง ประกอบกับมาตรการลดค่าครองชีพ และการกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ความแปรปรวนของสภาพอากาศ อุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการยังอยู่ระดับสูง ทั้งราคาก๊าซหุงต้ม ค่าแรง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะทำให้เงินเฟ้อมีโอกาสผันผวนได้บ้าง ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 อยู่ที่ระหว่างร้อยละ 1.7 – 2.7 (ค่ากลาง 2.2) และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง
ดัชนี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนพฤษภาคม 2566 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56.6 จากระดับ 53.5 ในเดือนก่อนหน้า โดยอยู่ในช่วงเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 (นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565) และสูงสุดในรอบ 53 เดือน (นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2562) เป็นการปรับเพิ่มขึ้นทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) โดยมีปัจจัยสำคัญจาก
(1) - การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
(2) - ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา
(3) - มาตรการจากภาครัฐที่ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชนในหลาย ๆ ด้าน จะเห็นได้ว่า หากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจน น่าจะช่วยให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ท่านสามารถติดตามรายละเอียดการแถลงเพิ่มเติมได้ที่
💾🔽 http://www.tpso.moc.go.th/th/node/8939