- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 15 May 2023 20:44
- Hits: 1809
กรมพัฒน์ฯ แนะนิติบุคคลเช็คสถานะผู้ทำบัญชีให้ชัวร์ว่า 'คงอยู่' ก่อนนำส่งงบการเงิน พร้อมเตือนผู้ทำบัญชี อย่าลืม! ต่ออายุสมาชิกสภาฯ และแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แนะนำนิติบุคคลก่อนนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ต้องเช็คสถานะผู้ทำบัญชีว่ามีสถานะคงอยู่หรือไม่ พร้อมฝากถึงผู้ทำบัญชีต้องแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี และหากผู้ทำบัญชีใด มีสถานะขาดคุณสมบัติให้เร่งตรวจสอบสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ ทางเว็บไซต์สภาวิชาชีพบัญชี
หากยังไม่ต่ออายุต้องรีบดำเนินการ และเข้าใช้งานระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่ออัพเดทสถานะให้เป็นปัจจุบัน ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายทั้งฝั่งผู้ทำบัญชี และนิติบุคคล
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเวลาที่นิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ต้องนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผ่านระบบ DBD e-Filing ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ซึ่งมีนิติบุคคลที่ต้องนำส่งในปีนี้มีจำนวน 807,338 ราย โดยนิติบุคคลต้องระบุ ชื่อผู้ทำบัญชีในแบบนำส่งงบการเงิน หรือ ส.บช.3 ให้ชัดเจน ห้ามนำชื่อผู้ทำบัญชีที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริงใส่ในแบบ ส.บช.3
มิเช่นนั้นจะได้รับโทษทางกฎหมาย และผู้ทำบัญชีที่จัดทำงบการเงินต้องแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่ตนเป็นผู้จัดทำบัญชีในระบบ e-Accountant ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี ซึ่งผู้ทำบัญชี 1 คน สามารถจัดทำบัญชีให้นิติบุคคลได้ไม่เกิน 100 รายต่อปี หากเกินกว่านั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย และเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี มีโทษตั้งแต่ตักเตือนจนถึงเพิกถอนการขึ้นทะเบียนหรือสมาชิก
“สถานะของผู้ทำบัญชีที่ปรากฏในระบบ DBD e-Filing แบ่งออกเป็น 6 สถานะ ดังนี้ 1) คงอยู่ หมายถึง สถานะปกติ ที่สามารถจัดทำบัญชีได้ 2) ขาดคุณสมบัติ หมายถึง ขาดต่ออายุสมาชิกสภาฯในระบบ e-Accountant ให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ ในปีปัจจุบัน 2.1) กรณีต่ออายุสมาชิกสภาฯ แล้ว ให้ผู้ทำบัญชีเข้าใช้งานระบบ e-Accountant เพื่ออัพเดทสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ 2.2) กรณียังไม่ได้ต่ออายุสมาชิกสภาฯ ให้ผู้ทำบัญชีรีบดำเนินการต่ออายุสมาชิกให้เรียบร้อย แล้วดำเนินการตาม 2.1) เมื่อกลับเข้าสู่ระบบ DBD e-Filing สถานะผู้ทำบัญชีจะแสดง ‘คงอยู่’
3) ยกเลิกการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชี หมายถึง ผู้ทำบัญชีได้ยกเลิกการเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 4) พักการขึ้นทะเบียน/สมาชิก หมายถึง ผู้ทำบัญชีอยู่ระหว่างถูกลงโทษพักการประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ 5) เพิกถอนการขึ้นทะเบียน/ สมาชิก หมายถึง ผู้ทำบัญชีถูกลงโทษห้ามประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ และ 6) ถึงแก่กรรม
ดังนั้น ก่อนนำส่งงบการเงินขอให้นิติบุคคลเช็คสถานะของผู้ทำบัญชีก่อนว่ามีสถานะคงอยู่หรือไม่ หากไม่ใช่สถานะดังกล่าวต้องแจ้งให้ผู้ทำบัญชีแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อให้งบการเงินมีความถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสีย คู่ค้า และผู้สนใจที่จะร่วมทุนกับธุรกิจของท่าน” อธิบดีกล่าวในตอนท้าย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพบัญชี กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4395 และ สายด่วน 1570 หรือ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th
กรมพัฒน์ฯ เตือนนิติบุคคล เช็กสถานะผู้ทำบัญชีให้ชัวร์ว่า ‘คงอยู่’ก่อนนำส่งงบการเงิน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือนนิติบุคคล 807,338 ราย ที่ต้องส่งงบการเงินที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65 ต้องนำส่งผ่านระบบ DBD e-Filing ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้ และต้องเช็กสถานะผู้ทำบัญชีว่าคงอยู่หรือไม่ ห้ามใช้ชื่อผู้ทำบัญชีที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริง ส่วนผู้ทำบัญชี ต้องแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่ตนทำบัญชีให้ หรือหากขาดคุณสมบัติ ก็ต้องแก้ไขให้ถูกต้องก่อน ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย ทั้งนิติบุคคลและผู้ทำบัญชี
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตลอดทั้งเดือนพ.ค.2566 เป็นช่วงเวลาที่นิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2565 จะต้องนำส่งงบการเงินต่อกรมฯ ผ่านระบบ DBD e-Filing ภายในวันที่ 31 พ.ค.2566 มีนิติบุคคลที่ต้องนำส่งในปีนี้จำนวน 807,338 ราย โดยนิติบุคคลต้องระบุชื่อผู้ทำบัญชีในแบบนำส่งงบการเงิน หรือ ส.บช.3 ให้ชัดเจน ห้ามนำชื่อผู้ทำบัญชีที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริงใส่ในแบบ ส.บช.3 มิเช่นนั้นจะได้รับโทษทางกฎหมาย
และผู้ทำบัญชีที่จัดทำงบการเงิน ต้องแจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่ตนเป็นผู้จัดทำบัญชีในระบบ e-Accountant ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี ซึ่งผู้ทำบัญชี 1 คน สามารถจัดทำบัญชีให้นิติบุคคลได้ไม่เกิน 100 รายต่อปี หากเกินกว่านั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย และเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี มีโทษตั้งแต่ตักเตือนจนถึงเพิกถอนการขึ้นทะเบียนหรือสมาชิก
ทั้งนี้ สถานะของผู้ทำบัญชีที่ปรากฏในระบบ DBD e-Filing แบ่งออกเป็น 6 สถานะ ดังนี้ 1.คงอยู่ หมายถึง สถานะปกติ ที่สามารถจัดทำบัญชีได้ 2.ขาดคุณสมบัติ หมายถึง ขาดต่ออายุสมาชิกสภาฯในระบบ e-Accountant ให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ
ในปีปัจจุบัน แยกเป็น กรณีต่ออายุสมาชิกสภาฯ แล้ว ให้ผู้ทำบัญชีเข้าใช้งานระบบ e-Accountant เพื่ออัปเดตสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ และกรณียังไม่ได้ต่ออายุสมาชิกสภาฯ ให้ผู้ทำบัญชีรีบดำเนินการต่ออายุสมาชิกให้เรียบร้อย แล้วดำเนินการอัปเดตสถานะ เมื่อกลับเข้าสู่ระบบ DBD e-Filing สถานะผู้ทำบัญชีจะแสดง “คงอยู่”
3.ยกเลิกการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชี หมายถึง ผู้ทำบัญชีได้ยกเลิกการเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 4.พักการขึ้นทะเบียน สมาชิก หมายถึง ผู้ทำบัญชีอยู่ระหว่างถูกลงโทษพักการประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ 5.เพิกถอนการขึ้นทะเบียน สมาชิก หมายถึง ผู้ทำบัญชีถูกลงโทษห้ามประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ และ 6.ถึงแก่กรรม
ดังนั้น ก่อนนำส่งงบการเงินขอให้นิติบุคคลเช็กสถานะของผู้ทำบัญชีก่อนว่ามีสถานะคงอยู่หรือไม่ หากไม่ใช่สถานะดังกล่าว ต้องแจ้งให้ผู้ทำบัญชีแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อให้งบการเงินมีความถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสีย คู่ค้า และผู้สนใจที่จะร่วมทุนกับธุรกิจของท่าน โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพบัญชี กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4395 และ สายด่วน 1570 หรือ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th