- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 12 May 2023 19:03
- Hits: 1606
กรมพัฒน์ฯ จับมือหน่วยงานรัฐ-เอกชน ดัน'คาร์บอนเครดิต' เป็นหลักประกันทางธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ผลักดัน 'คาร์บอนเครดิต' เป็นหลักประกันทางธุรกิจ เบื้องต้นเห็นควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งการกำหนดประเภททรัพย์ การประเมินมูลค่า การกำกับดูแลทรัพย์ วิธีการบังคับหลักประกัน และศึกษาเทียบเคียงกับต่างประเทศ ก่อนออกเป็นกฎหมาย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาคเอกชน ผลักดันให้คาร์บอนเครดิต เป็นหลักประกันทางธุรกิจ
โดยเบื้องต้นทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งการกำหนดประเภททรัพย์ การประเมินมูลค่า การกำกับดูแลทรัพย์ วิธีการบังคับหลักประกัน รวมถึงศึกษาเทียบเคียงกับต่างประเทศ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาออกเป็นกฎหมายเพื่อรองรับต่อไป
สำหรับ ประเด็นที่ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เช่น คาร์บอนเครดิตจัดเป็นทรัพย์ประเภทใด การประเมินมูลค่า กระบวนการ ขั้นตอนการให้สินเชื่อและการกำกับดูแลทรัพย์ และหากนำคาร์บอนเครดิตมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว เมื่อเกิดเหตุบังคับหลักประกัน จะมีวิธีการบังคับหลักประกันอย่างไร (กระบวนการบังคับทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันและกระบวนการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทรัพย์สิน) และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ ที่จะต้องศึกษาเทียบเคียงกับประเทศต่าง ๆ เพื่อความสมบูรณ์ของกฎหมาย
ทั้งนี้ ในการหารือยังพบว่า มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และใช้เวลาพอสมควร จึงเสนอให้แต่ละหน่วยงานศึกษาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตนเองก่อนเป็นลำดับแรก และนำผลการศึกษา ปัญหา อุปสรรค เข้ารายงานต่อที่ประชุม ก่อนจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเชิงลึกถึงความเป็นไปได้ในการนำคาร์บอนเครดิตมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ
“ปัจจุบันนานาประเทศ ให้ความสำคัญต่อการสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อชดเชยระบบนิเวศน์ที่ถูกทำลายไป คาร์บอนเครดิตจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและลดปัญหาโลกร้อน มีมูลค่าที่สามารถนำออกขายให้ภาคธุรกิจหรือหน่วยงานที่มีกระบวนการทำงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกินกว่าเป้าหมายที่ควบคุม
โดยสามารถซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตได้ในตลาดคาร์บอนเครดิต เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยในส่วนของไทย ภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญเรื่องคาร์บอนเครดิตมากขึ้นตามลำดับ สอดคล้องกับกระแสการลดก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกต้องเผชิญกับสถานการณ์ภาวะโลกร้อน และเป็นหนทางที่จะนำพาธุรกิจสู่ความยั่งยืน”นายทศพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ขอเชิญชวนให้ประชาชนปลูกไม้ยืนต้นที่มีค่าบนที่ดินของตนเอง เพื่อสร้างมูลเพิ่มให้ที่ดิน สร้างออกซิเจนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปลูกไม้ยืนต้นตั้งแต่บัดนี้ เป็นการสร้างคาร์บอนเครดิตแต่เนิ่น ๆ ซึ่งในอนาคตสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งจากไม้ยืนต้นที่ปลูกและได้คาร์บอนเครดิตที่เป็นผลพวงจากการปลูกไม้ยืนต้น เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัวอีกทางหนึ่ง