WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1 Bธัชชญาน์พล

พาณิชย์ แจ้งเตือนผู้ประกอบการ เกาะติดอียูร่างกฎหมายใหม่ เข้มสิ่งแวดล้อม

กรมการค้าต่างประเทศ แจ้งเตือนผู้ประกอบการไทย เกาะติดการพัฒนากฎหมาย Ecodesign Regulation ของอียู ที่จะนำมาใช้บังคับแทนกฎหมาย Ecodesign Directives ในช่วงไตรมาสแรกของปี 67 เผยจะมีการกำหนดเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อมเข้มขึ้น มีสินค้าขั้นสุดท้ายที่อยู่ในข่าย 12 รายการ สินค้าขั้นกลาง 7 รายการ ระบุมีสินค้าที่เกี่ยวข้องของไทยในกลุ่มนี้ ส่งออกไปอียูปี 65 สูงถึง 3.75 แสนล้านบาท

นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการยุโรปอยู่ระหว่างพัฒนาร่างกฎหมาย Ecodesign Regulation ที่มีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ และจะนำมาใช้บังคับกับสินค้าทั้งที่ผลิตและวางจำหน่ายในสหภาพยุโรป (อียู) และใช้แทนกฎหมาย Ecodesign Directives ซึ่งเดิมกำหนดให้สมาชิกต้องออกกฎหมายภายในของแต่ละประเทศให้สอดคล้องหรือรองรับกับกฎหมาย แต่กฎหมายใหม่ จะใช้บังคับกับสมาชิกทั้งหมดโดยตรง โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567

ทั้งนี้ ปัจจุบันอียูกำลังเปิดรับฟังความเห็นต่อข้อเสนอเบื้องต้นเกี่ยวกับกลุ่มสินค้าและมาตรการทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมาย Ecodesign Directives เดิม เพื่อจัดลำดับประเด็นสำคัญของร่างกฎหมาย ได้แก่ การระบุสินค้าและมาตรการเพิ่มเติม โดยมีสินค้าขั้นสุดท้าย 12 รายการ ได้แก่ สิ่งทอและรองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์เซรามิก ยาง ผงซักฟอก เตียงและที่นอน น้ำมันหล่อลื่น

สีและสารเคลือบเงา ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ของเล่น อวนและเครื่องมือตกปลา และผลิตภัณฑ์อนามัยแบบดูดซับ และสินค้าขั้นกลาง 7 รายการ ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก อะลูมิเนียม เคมีภัณฑ์ พลาสติกและโพลิเมอร์ กระดาษ เยื่อกระดาษ กระดาษแข็ง และแก้ว และมาตรการทั่วไป 3 รายการ ได้แก่ ความทนทาน ความสามารถในการรีไซเคิล ส่วนประกอบที่รีไซเคิลหลังการบริโภค

นอกจากนี้ ยังมีการรับฟังความเห็นเพื่อกำหนดลำดับความสำคัญของกลุ่มสินค้าที่ควรดำเนินการก่อน ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและมาตรการทั่วไปที่ควรกำหนดภายใต้ Ecodesign Regulation การปรับปรุงลักษณะสินค้าจากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม ระดับของรายละเอียดสินค้าและมาตรการทั่วไปที่ควรกำหนดภายใต้ Ecodesign Regulation และประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและการหมุนเวียนในห่วงโซ่คุณค่า และความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามร่างกฎหมาย

“อียูจะนำความเห็นและข้อมูลดังกล่าว ไปหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระยะแรก ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 และจะเปิดรับฟังความเห็นและหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกครั้งก่อนการกำหนดกฎสินค้าในช่วงต้นปี 2567 ขอให้ผู้ประกอบการไทยและผู้ที่สนใจ ติดตามพัฒนาการของร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องไปอียู”นายธัชชญาน์พลกล่าว

ในปี 2565 ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังอียูทั้งหมดประมาณ 790,000 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าที่ต้องมี Ecodesign หรืออาจต้องมี Ecodesign เพื่อวางจำหน่ายในอียู คิดเป็นมูลค่าประมาณ 375,000 ล้านบาท เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ร้อยละ 12.83 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปอียู เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ร้อยละ 5.90 ผลิตภัณฑ์ยาง ร้อยละ 5.37 แผงวงจรไฟฟ้า ร้อยละ 4.37 หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ร้อยละ 2.79 เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ร้อยละ 2.68 พลาสติก ร้อยละ 2.34 เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ร้อยละ 2.30 แผงสวิตซ์และแผงควบคุมไฟฟ้า ร้อยละ 2.19 เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ร้อยละ 2.04 เครื่องนุ่งห่ม ร้อยละ 2.00 เคมีภัณฑ์ ร้อยละ 1.58 และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ ร้อยละ 1.08

 

Click Donate Support Web  

MTL 720x100

kasat 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!