- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 27 December 2022 23:10
- Hits: 1793
ผลพวงฟันโกงใน อคส. อดีตผอ.สำนักนิติการ เจอคนเสียประโยชน์ฟ้องจนถูกตั้งกรรมการสอบ
พีรศักดิ์ อดีตผอ.สำนักนิติการ อคส. ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม หลังทำคดีทุจริตใน อคส. ทั้งค้างเก่า และคดีใหม่ จนฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องได้เป็นจำนวนมาก สร้างประโยชน์ให้กับหลวง แต่ถูกคนเสียประโยชน์รวมหัวยื่นหนังสือร้องเรียนในความผิดส่วนตัว จนถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และวินัยร้ายแรง ทำหนังสือคัดค้านถึง ผอ.อคส. รอคำตอบใน 30 วัน ยันจะสู้ต่อไป
ว่าที่ ร.ต.พีรศักดิ์ เตชพิพิธมงคล นักบริหาร 9 อดีตผู้อำนวยการสำนักนิติการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง กรณีที่ตนในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนิติการ ตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ได้ทำการรื้อฟื้นคดีทุจริตค้างเก่าของ อคส. จำนวนมาก ตั้งแต่โครงการรับจำนำข้าว โครงการปรับปรุงข้าวสารบรรจุถุง (ข้าวถูกใจ)
รวมถึงคดีทุจริตใหม่ อย่างโครงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง โครงการจัดซื้อทุเรียน ข้าวโพด จนส่งผลให้คดีมีความคืบหน้าอย่างมาก และสามารถฟ้องร้องคดี และผู้เกี่ยวข้องได้เพิ่มขึ้นมาก ทำประโยชน์ให้กับรัฐ แต่ถูกผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเหล่านี้ ทำหนังสือร้องเรียนตนมายังนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส.ว่า ตนเป็นบุคคลที่ถูกฟ้องร้อง ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนิติการ และต้องการให้ออกจากตำแหน่ง เพราะถูกบริษัทเอกชน 2 ราย แจ้งความผิดในฐานฉ้อโกง ที่สน.ทุ่งสองห้อง นำมาซึ่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 และล่าสุดตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ทั้งๆ ที่ความผิดของตนไม่ถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรง
สำหรับ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สรุปว่า ตนไม่ได้ฉ้อโกงบริษัท 2 ราย แต่เป็นการได้รับผลตอบแทนจากการทำงานให้ เพราะตั้งแต่ปี 2562 ตนเป็นทนาย รับทำคดีให้กับผู้ค้ามันสำปะหลัง 2 ราย ซึ่งเป็นคู่สัญญาของ อคส. และได้จ่ายค่าจ้างให้กับตน แต่คณะกรรมการฯ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า ตนได้ส่งเอกสารภายในของ อคส. ไปให้เอกชนลูกความ ถือเป็นการไม่รักษาความลับของ อคส. จึงเห็นควรให้สอบข้อเท็จจริงทางวินัย และผลการสอบวินัยได้ข้อสรุปว่า ตนมีความผิดฐานไม่รักษาความลับของ อคส. และเห็นควรให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง
“ผมได้ทำหนังสือค้านไปแล้วว่า ผลการสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เป็นผลการสอบที่ไม่ชอบ เพราะ 1 ใน คณะกรรมการสอบ พ้นสภาพการเป็นบอร์ด อคส. ไปแล้ว ทำให้ผลการสอบไม่ชอบ และผู้อำนวยการ อคส. ไม่มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยเพิ่งส่งให้ผู้อำนวยการ อคส. วันที่ 26 ธ.ค.2565 ซึ่งผู้อำนวยการ จะมีเวลาพิจารณาคำคัดค้าน และทำหนังสือตอบกลับมาผมภายใน 30 วัน”
ว่าที่ ร.ต.พีรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นที่น่าแปลกใจ ที่ อคส. มีคดีทุจริตมากมาย คิดเป็นความเสียหายให้กับรัฐจำนวนมาก เหตุใดจึงไม่เร่งรีบดำเนินการ แต่กลับมาตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องของตนเอง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับ อคส. เลย และที่สำคัญ ปัจจุบันงานสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับโครงการของรัฐหยุดชะงัก แม้แต่คดีทุจริตถุงมือยางยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ตั้งคณะกรรมการเอ็กซ์เรย์ อคส. เหมือนกรณีทุจริตคลองด่าน ซึ่งตนพร้อมเครื่องมือในการปราบทุจริตให้ด้วย
“แม้ผมจะถูกกระทำ ก็จะสู้ ถ้าสู้ไม่ไหว ก็จะไปรับจ้างทำมาหากินเลี้ยงตัวเองต่อไป เพราะผมทำงาน ไม่มีการทุจริต ทำงานโดยสุจริตมาโดยตลอด ไม่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง และพร้อมจะสู้ แม้จะสู้ไม่ไหว ก็จะสู้แบบมวยวัด และผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง หากสุดท้ายตัวเอง ต้องกลับมาทำงานให้ อคส. ก็ยังพร้อมที่จะทำหน้าที่ให้สมกับเป็นข้าของแผ่นดิน เพื่อตอบแทนแผ่นดินต่อไป”ว่าที่ ร.ต.พีรศักดิ์กล่าว