- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 10 December 2022 18:51
- Hits: 1886
กรมพัฒน์ฯ แนะทำ 4 วิธี เอาตัวรอดจากโจรไซเบอร์ หลังเจอแอบอ้างชื่อใช้หลอกลวง
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แนะธุรกิจและประชาชน แนะนำ 4 วิธี เอาตัวรอดจากโจรไซเบอร์ หลังพบแอบอ้าง ปลอมชื่อ โลโก้ ใช้หลอกลวง เผยต้องตรวจสอบเว็บไซต์เช็กตัวสะกด URL ก่อน ไม่กดลิงก์ SMS โหลดแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จักหรือได้แชร์มา ไม่หลงคำเชื่อเชิญชวน และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ย้ำไม่มีนโยบายทักหาใครก่อน ส่วนมิจฉาชีพ ขอลุยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ขอแนะแนวทางในการป้องกันตัวให้กับผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน ที่ได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพ ที่ทำการโทรศัพท์ หรือส่งข้อความ SMEs ไปยังผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน โดยแอบอ้างชื่อกรมฯ ขอตรวจสอบธุรกิจ หรือให้ปรับปรุงข้อมูลนิติบุคคล หรือโครงการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจจากโควิด-19
และขอให้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางแอปพลิเคชัน Line ที่สร้างปลอมขึ้นมาให้หลงเชื่อว่าเป็นช่องทางการติดต่อกับกรมฯ โดยกรมฯ ขอให้ทำการตรวจสอบก่อนทำการใดๆ จำนวน 4 วิธี เพื่อให้รอดพ้นจากรูปแบบการโจรกรรมข้อมูล และนำไปสู่ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยทั้ง 4 วิธี ที่จะต้องตรวจสอบก่อน ได้แก่ 1.ก่อนเข้าใช้งานเว็บไซต์จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า URL ของเว็บไซต์นั้น สะกดถูกต้องตรงกับหน่วยงานที่จะติดต่อ ต้องไม่มีสระขาดหรือเกินมา URL และเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ถูกต้อง คือ www.dbd.go.th เท่านั้น และการพิมพ์ตัวอักษรด้วยตนเองแทนการกดผ่านลิงก็ที่ได้รับต่อมาจะเป็นวิธีการใช้งานที่ปลอดภัยที่สุด
2.ไม่กดลิงก์ SMS โหลดแอปพลิชันที่ไม่รู้จัก หรือได้รับแชร์มาจากที่ต่างๆ เพราะอาจมีกลโกงจากมิจฉาชีพแฝงอยู่ เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านลิงก์
3.ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวน หากได้รับโทรศัพท์หรือการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่ามาจากกรมฯ โดยไม่ได้มีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกันมาก่อน หรือเสนอเรื่องต่างๆ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ขอให้พึงระวังว่าเป็นมิจฉาชีพ
4.การโจรกรรมทรัพย์สินผ่านระบบออนไลน์จะต้องใช้ข้อมูลที่ระบุได้ถึงตัวบุคคล จึงต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเช่น บัตรประชาชน อีเมล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น รวมทั้ง ต้องปกปิดข้อมูลดังกล่าวกับบุคคลที่ไม่รู้จักและ ไม่นำขึ้นบน Social Media ซึ่งทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้
“ขอยืนยันว่า กรมฯ ไม่มีนโยบายทักหาใครก่อน รวมถึงขอข้อมูลส่วนบุคคลหรือเสนอเงินช่วยเหลือธุรกิจ จึงขอให้ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม เพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน โดยกรมฯ กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับมิจฉาชีพที่ได้แอบอ้างชื่อและปลอมโลโก้กรมฯ เพราะเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่และยอมไม่ได้ ซึ่งจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะสร้างความเสียหายกับธุรกิจและประชาชน”นายทศพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน มีข้อสงสัย และต้องการศึกษาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และ FB: DBD Public Relations
