- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 08 December 2022 09:03
- Hits: 2530
ส่งออกปูนซีเมนต์เฮ! 'พาณิชย์'แจ้งข่าวดี ฟิลิปปินส์ไม่ต่ออายุการใช้มาตรการเซฟการ์ด
กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดีผู้ส่งออกปูนซีเมนต์ หลังฟิลิปปินส์ไม่ต่ออายุการใช้มาตรการเซฟการ์ด ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา คาดส่งผลดีทำให้ไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์ได้เพิ่มขึ้น สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (DTI) ฟิลิปปินส์ ได้ประกาศผลการพิจารณาไม่ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้น หรือมาตรการเซฟการ์ด (Safeguard Measure) ที่มีกำหนดสิ้นการบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2565 โดยการพิจารณาไม่ต่ออายุมาตรการในครั้งนี้ ส่งผลให้สินค้าปูนซีเมนต์ที่ส่งออกจากไทยไปฟิลิปปินส์ปลอดจากภาระอากรเซฟการ์ด และเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ส่งออกไทยในการขยายตลาดไปยังฟิลิปปินส์ได้เพิ่มขึ้นและแข่งขันได้ดีขึ้น
“การยุติมาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้การส่งออกไปยังตลาดฟิลิปปินส์กลับมา เนื่องจากฟิลิปปินส์ถือเป็นตลาดศักยภาพ มีปริมาณนำเข้าอยู่ที่ปีละประมาณ 4 ล้านตัน และมากกว่า 90% เป็นการนำเข้าจากเวียดนาม และยังเป็นไปได้ว่าในปีหน้าฟิลิปปินส์มีแนวโน้มนำเข้าปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ส่งผลให้ไทยจะส่งออกได้มากขึ้น”
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยมีปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์อยู่ที่ 20.56 ล้านตัน โดยจำหน่ายภายในประเทศ 18.39 ล้านตัน และส่งออก 1.67 ล้านตัน มีมูลค่า 3,330 ล้านบาท ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา โดยแทบไม่มีการส่งออกไปฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีการใช้มาตรการเซฟการ์ด
ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ได้ประกาศใช้มาตรการเซฟการ์ดกับสินค้าปูนซีเมนต์ที่นำเข้าจากทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2562 ถึงวันที่ 21 ต.ค.2565 โดยเรียกเก็บอากรเซฟการ์ดในอัตรา 250 เปโซต่อตัน ในปีแรกที่ใช้มาตรการ และลดลงมาอยู่ที่ 245 และ 200 เปโซต่อตัน ในปีที่ 2 และ 3 ตามลำดับ และเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 คณะกรรมาธิการภาษีฟิลิปปินส์ ได้เปิดไต่สวนเพื่อต่ออายุมาตรการปกป้องออกไป ซึ่งฟิลิปปินส์สามารถใช้มาตรการดังกล่าวกับสินค้าปูนซีเมนต์ต่อไปได้อีก 7 ปี
แต่กรมการค้าต่างประเทศได้โต้แย้งหน่วยงานไต่สวนฟิลิปปินส์ ไม่ให้มีการต่ออายุมาตรการ โดยเน้นย้ำว่ามาตรการปกป้อง จะต้องนำมาใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันหรือเยียวยาความเสียหายของอุตสาหกรรมภายในเท่านั้น และปรากฏข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ของอุตสาหกรรมภายในของฟิลิปปินส์ดีขึ้นแล้ว ซึ่งในที่สุด DTI ได้ประกาศว่าไม่พบความเสียหายที่เกิดแก่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในฟิลิปปินส์ จึงมีคำวินิจฉัยไม่ต่ออายุมาตรการดังกล่าว
มาตรการเซฟการ์ดเป็นมาตรการที่ประเทศผู้นำเข้ากำหนดขึ้น เพื่อใช้คุ้มครองอุตสาหกรรมภายใน ที่ได้รับหรือมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ โดยมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ต่าง เมื่อถูกประเทศคู่ค้าไต่สวน จะทำการประสานกับผู้ส่งออกและหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกำหนดกลยุทธ์และแนวทางการแก้ต่าง และยกประเด็นต่อสู้ตามกระบวนการในแต่ละขั้นตอนของการไต่สวน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและแจ้งข้อมูล โดยผู้ประกอบการที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อกองปกป้องและตอบโต้ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.thaitr.go.th