- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 08 December 2022 08:37
- Hits: 2069
พาณิชย์ แนะศึกษาไลฟ์สไตล์ชาวอเมริกันแต่ละ Gen ก่อนวางแผนทำตลาดสหรัฐฯ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ประกอบการไทยศึกษาไลฟ์สไตล์ชาวอเมริกันในแต่ละ Gen เพื่อวางแผนการเจาะตลาดให้ตรงจุด ตรงเป้า เพิ่มโอกาสในการค้าขายและส่งออกสินค้าและบริการไทยได้เพิ่มมากขึ้น
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ ทำการสำรวจลู่ทางการส่งออกให้กับสินค้าไทยไปยังประเทศต่าง ๆ ล่าสุดได้รับรายงานจากน.ส.เกษสุรีย์ วิจารณกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ถึงแนวโน้มไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกันในแต่ละ Gen เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ประกอบการไทยนำไปใช้ในการวางแผนการผลิตสินค้า การทำตลาดสินค้า การส่งออกสินค้า และการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคในแต่ละ Gen ได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สหรัฐฯ มีประชากรประมาณ 334 ล้านคน มีครอบครัวแล้วประมาณ 129.4 ล้านคน โดยกลุ่ม Millennial (อายุ 25-39 ปี) เป็นกลุ่มที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด รองลงมา คือ กลุ่ม Baby Boomer (อายุ 55 ปีขึ้นไป) กลุ่ม Gen Z (อายุ 12-24 ปี) กลุ่ม Gen X (อายุ 40-54 ปี) และกลุ่ม Gen Alpha (อายุต่ำกว่า 12 ปี) ตามลำดับ โดยนิวยอร์กเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นเป็นลำดับต้น รองลงมา คือ ลอสแอนเจลีส ชิคาโก และดัลลัส
สำหรับ การศึกษาไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกัน โดยบริษัท Euromonitor พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับตนเองเป็นลำดับต้น รองลงมา คือ คู่ครอง ลูก พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ใช้เวลาทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจ รองลงมาสังสรรค์ ทำงาน ท่องเที่ยว กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ซื้อสินค้าและบริการที่ตรงกับการใช้ชีวิต มีความโดดเด่น ตามกระแสนิยม แสดงฐานะทางสังคม กลุ่ม Gen X และ Baby Boomer ต้องการย้ายบ้านไปนอกเมือง กลุ่ม Millennial นิยมออกกำลังกายออนไลน์จากที่บ้าน ชอบเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นความต้องการอสังหาริมทรัพย์ชานเมือง
ส่วนการทำงาน บริษัทส่วนใหญ่ยังคงให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ โดยกลุ่ม Gen Z ร้อยละ 25 และ Gen Millennial ร้อยละ 23 วางแผนที่จะมีบริษัทของตนเองในอนาคตเพื่อประกอบอาชีพที่มีความยืดหยุ่นที่สามารถรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตมากขึ้น และผลจากการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันหันมาปรับปรุงสิ่งบันเทิงในบ้าน เช่น ดูทีวี ออกกำลังกาย ทำสวน ตกแต่งบ้าน เล่นวิดีโอเกม รวมทั้งเริ่มออกไปช้อปปิ้ง ชมกีฬา ภาพยนตร์ การเดินทางท่องเที่ยวระยะสั้น ชมพิพิธภัณฑ์ ชมคอนเสิร์ต เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่ม Millennial
นอกจากนี้ ยังพบว่า ชาวอเมริกันได้หันมาให้ความสำคัญกับการป้องกันสุขภาพ ปรับพฤติกรรมเลี่ยงการเจ็บป่วย นิยมรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน และให้ความสนใจอาหารเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennial และยังชอบกิจกรรมนั่งสมาธิ การนวด การใช้สมุนไพร โยคะ สปา โดย Gen X จะชื่นชอบการฝึกสมาธิมากเป็นอันดับต้น
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัล เพื่อช่วยปรับปรุงและรักษาสุขภาพของตนเอง โดยมีกลุ่ม Millennial เป็นผู้นำในกลุ่มนี้ ซึ่งนิยมใช้แอปพลิเคชัน และอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อติดตามสุขภาพ ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น ส่วนผู้บริโภคอายุน้อยหันมาใช้เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำให้บ้านของพวกเขา สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ข้อมูลวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกันเหล่านี้ นับเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของไทย ในการพัฒนาสินค้าและวางแผนการตลาดให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในตลาดเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มช่องทางและโอกาสในการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น หากเข้าใจถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างของผู้บริโภคในแต่ละรุ่น ซึ่งในอนาคตอันใกล้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ในตลาดสหรัฐฯ จะมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้นและเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด
ผู้ประกอบการไทยควรเร่งศึกษาและปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งการสร้างโลกจำลอง (Virtual Reality : VR) และการสร้างวัตถุในโลกแห่งความจริง (Augmented Reality : AR) ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคอเมริกันกลุ่ม Gen Z ที่เป็นกลุ่มที่เน้นหนักทางด้านเทคโนโลยีและการเปิดรับข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งทางวิดีโอเกมและสื่อโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวน่าจะเป็นเทรนด์ยอดนิยมและกระจายครอบคลุมสู่ตลาดหลักโดยรวมต่อไป”นายภูสิตกล่าว