- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 04 December 2022 14:51
- Hits: 1508
พาณิชย์ ชี้เป้าส่งออก 'อาหารทานเล่น' เจาะตลาดชิลี แนะเน้นกินแล้วดีต่อสุขภาพ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าส่งออก 'อาหารทานเล่น' เจาะตลาดชิลี เผย “ช็อกโกแลต ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว คุกกี้และสแน็คบาร์จากธัญพืชและผลไม้” มีโอกาสสูง แต่จะต้องให้ความสำคัญกับสินค้าที่บริโภคแล้วดีต่อสุขภาพ
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ ทำการสำรวจลู่ทางการส่งออกให้กับสินค้าไทยไปยังประเทศต่าง ๆ ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ณ กรุงซันติอาโก ประเทศชิลี ถึงโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าอาหารทานเล่นของไทยเข้าสู่ตลาดชิลี เพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ อาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมในตลาดชิลี มี 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.ช็อกโกแลต ของหวาน 2.ไอศกรีม 3.ขนมขบเคี้ยว และ 4.คุกกี้และสแน็คบาร์จากธัญพืชและผลไม้ โดยช็อกโกแลต ของหวาน มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด รองลงมา คือ ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว คุกกี้และสแน็คบาร์ และบริษัทยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) ยังคาดการณ์ว่าตลาดอาหารทานเล่นในชิลีปี 2565 จะมีมูลค่า 2,690,589 ล้านเปโซชิลี หรือประมาณ 2.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% และจะขยายตัวต่อเนื่องปีละประมาณ 5% ไปจนถึงปี 2570
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการบริโภคของชาวชิลีมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยหันมาใส่ใจกับการบริโภคสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลชิลีได้ออกกฎหมายบังคับให้ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดต้องแสดงเครื่องหมายอาหารเกินเกณฑ์ และโควิด-19 ที่ส่งผลให้คนหันมาบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลง และบริโภคธัญพืชและผลไม้มากขึ้น
“จากความต้องการที่ตลาดอาหารทานเล่นในชิลีที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสที่ดีในการส่งออกสินค้าอาหารทานเล่นของไทยไปยังชิลี เพราะไทยเป็นผู้ผลิตอาหารทานเล่น อาหารขบเคี้ยว สแน็คบาร์ระดับต้น ๆ ของโลก เนื่องจากสินค้าไทยมีความหลากหลายและสามารถผลิตโดยใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น สาหร่าย งา ข้าว ผลไม้ ธัญพืช มาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งตรงตามที่ผู้บริโภคต้องการ จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารทานเล่นที่มีคุณค่าทางอาหาร มีกากใยสูง”นายภูสิตกล่าว
ทั้งนี้ กรมฯ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ที่กรุงซันติอาโก ดำเนินการประสานงานไปยังผู้นำเข้ารายสำคัญของชิลีแล้ว และหากผู้นำเข้ารายใดสนใจที่จะนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากไทย กรมฯ และทูตพาณิชย์จะเร่งจัดจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารทานเล่นของไทยเข้าสู่ตลาดชิลีต่อไป
ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดอาหารทานเล่นในชิลี มีผู้ผลิตรายใหญ่ 5 ราย ที่ครองตลาดสูงสุด คือ 1.บริษัท Nestle Chile S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 28.4 2.บริษัท Empresas Carozzi S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 19.7 ภายใต้แบรนด์ Ambrosoli 3.บริษัท Evercrisp Snack Productos de Chile S.A. มี สัดส่วนตลาดร้อยละ 9.2 4.บริษัท Industria de Alimentos Trendy S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 5.5 และ 5.บริษัท ICB S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 5.3 และหากพิจารณาตามแบรนด์ พบว่า แบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.Costa 2.Savory 3.McKay 4.Ambrosoli 5.Marcho Polo