- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 22 October 2022 13:58
- Hits: 2179
กรมเจรจาฯ ปลื้ม FTA ดันส่งออกเครื่องสำอาง 8 เดือน พุ่ง 1.7 พันล้านเหรียญ โต 8%
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นปลื้มส่งออกเครื่องสำอาง ไปประเทศที่ไทยมี FTA ช่วง 8 เดือน พุ่ง 1,795 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8% ตลาดอาเซียนนำโด่ง ตามด้วยญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง และจีน ส่วนสินค้าเด่น ผลิตภัณฑ์ใช้กับเส้นผม แต่งหน้าและบำรุงผิว สบู่ น้ำหอม เผยล่าสุดคู่เจรจา 14 ประเทศ ยกเว้นภาษีนำเข้าให้ไทยแล้ว พร้อมชี้เป้านำเข้ากลุ่มสารลดเลือนริ้วรอย จาก 16 ประเทศคู่ FTA เพื่อลดต้นทุน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สินค้าเครื่องสำอางและความงาม ถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีศักยภาพโดดเด่นและน่าจับตามอง โดยมูลค่าการส่งออกของไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 4 ปี (2561-2564) ไทยส่งออกสินค้าเครื่องสำอางไปตลาดโลก เฉลี่ยปีละ 2,981 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเฉลี่ย 13% ต่อปี และในช่วง 8 เดือน ของปี 2565 (ม.ค.–ส.ค.) ไทยส่งออกสินค้าเครื่องสำอางสู่ตลาดโลก มูลค่า 2,203 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11% โดยส่งออกเครื่องสำอางไป 18 ประเทศคู่ FTA มูลค่ากว่า 1,795 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% ซึ่งสัดส่วนการส่งออกสินค้าเครื่องสำอางไปประเทศคู่ FTA สูงถึง 81.5% ของการส่งออกเครื่องสำอางทั้งหมด
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตลาดส่งออกสำคัญของสินค้าเครื่องสำอาง พบว่า ล้วนเป็นประเทศคู่ค้าที่ไทยมี FTA ด้วย โดยอาเซียนเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 1 ครองสัดส่วน 45% ของการส่งออกเครื่องสำอางทั้งหมด โดยตลาดส่งออกหลัก คือ อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง และจีน และในช่วงเดือน ม.ค.–ส.ค.2565 ตลาดที่การส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น อาเซียน เพิ่ม 12% ออสเตรเลีย เพิ่ม 18% จีน เพิ่ม 16% เกาหลีใต้ เพิ่ม 22% และอินเดีย เพิ่ม 23% ส่วนสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเส้นผม เพิ่ม 6% ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แต่งหน้าและบำรุงผิว เพิ่ม 6% สบู่ เพิ่ม 12% สิ่งปรุงแต่งที่ใช้โกนหนวดและดับกลิ่นตัว เพิ่ม 2% น้ำหอมและหัวน้ำหอม เพิ่ม 331% และวัตถุดิบที่ใช้ทำเครื่องสำอาง เพิ่ม 11%
นางอรมน กล่าวว่า ความตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ส่งเสริมการส่งออกสินค้าเครื่องสำอางของไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และช่วยขจัดอุปสรรคภาษีนำเข้าในประเทศคู่ค้า ซึ่งปัจจุบันสินค้าเครื่องสำอางของไทยทุกรายการ ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้ากับคู่ FTA 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ส่วนอีก 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ อินเดีย ชิลี และเปรู ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางในบางรายการ สำหรับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เกาหลีใต้จะทยอยลดภาษีสบู่เหลวจนเหลือ 0% ในปี 2579 ส่วนสบู่ก้อนและแชมพูจะทยอยลดภาษีจนเหลือ 0% ในปี 2584
“ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมเข้าคลินิกเสริมความงามเพิ่มขึ้น เน้นการรักษาผิวพรรณด้วยการทำหัตถการลดเลือนริ้วรอย อาทิ โบท็อกซ์ (Botulinum toxin type A) และฟิลเลอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ไทยจะนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ โดยไทยได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรทั่วไปในสินค้ากลุ่มสารลดเลือนริ้วรอยที่อัตรา 10% แต่หากเป็นการนำเข้าจากประเทศที่ไทยมี FTA ด้วย เช่น เกาหลีใต้ จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสารลดเลือนริ้วรอยจาก 16 ประเทศคู่ FTA แล้ว ยกเว้นอินเดีย และฮ่องกง ที่ไทยลดภาษีนำเข้าเหลือที่อัตรา 5% และ 7% ตามลำดับ ซึ่งจากศักยภาพที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย และข้อได้เปรียบด้านภาษีภายใต้ FTA จะเพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรมความงามเติบโตขึ้นในอนาคต ดังนั้น ผู้ประกอบการควรพิจารณาเรื่องการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA เพิ่มโอกาสขยายส่งออกและลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบให้กับธุรกิจ”นางอรมนกล่าว
สำหรับ ผู้สนใจสามารถตรวจเช็กอัตราภาษีศุลกากรของประเทศคู่ FTA ได้ที่เว็บไซต์ http://www.dtn.go.th , http://ftacenter.dtn.go.th และ http://tax.dtn.go.th หรือสอบถามได้ที่ Call Center 0 2507 7555