- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 06 October 2022 17:12
- Hits: 1419
กรมพัฒน์ฯ จ่อขีดชื่อนิติบุคคล 8,282 ราย เป็นบริษัทร้าง ปิดช่องมิจฉาชีพนำหลอกลวง
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมขีดชื่อนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ ออกจากฐานข้อมูลรวม 8,282 ราย เหตุไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี และเชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าหรือทำธุรกิจแล้ว เผยหากพ้นกำหนด 90 วันนับจากประกาศ จะเป็นบริษัทร้างทันที เตือนประชาชน ธุรกิจ ที่จะติดต่อทำการค้าหรือลงทุนกับบริษัทใด ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ป้องกันถูกหลอกลวง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน จำนวน 8,282 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยได้พิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐาน คือ กรณีไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2561–2563 ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว และหากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ (26 ก.ย.2565) นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่แสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้างและสิ้นสภาพนิติบุคคลไปแล้ว แต่ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้น ยังคงมีอยู่ และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน
ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบแล้วเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้มีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน คือ การขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนต่อไป
นายทศพล กล่าวว่า กรมฯ ได้ปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล รวมถึงป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่าง ๆ ที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคลอันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน
“ขอฝากไปยังนิติบุคคล จะต้องดำเนินธุรกิจให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปี และยื่นต่อกรมฯ ถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึงกรณีที่ธุรกิจมีความจำเป็นจะต้องยุติลง แต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นด้วย”นายทศพลกล่าว
สำหรับ ประชาชนหรือภาคธุรกิจ ที่ต้องการศึกษาคู่ค้า หรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใด จะต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดี เพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง ที่เว็บไซต์กรมฯ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ บริการออนไลน์ และ DBD Datawarehouse+ หรือแอปพลิเคชัน DBD Service หรือถ้าต้องการตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อ สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน โดยไม่มีค่ามีค่าใช้จ่าย
กรมพัฒน์ฯ เตรียมขีดชื่อนิติบุคคลเกือบเก้าพันรายเป็นสถานะร้าง เหตุ!!..ไม่ส่งงบการเงิน เตือนประชาชนจะทำธุรกิจต้องเช็คข้อมูลให้ชัวร์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกประกาศจะขีดชื่อนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ สาเหตุไม่ส่งงบการเงิน จำนวน 8,282 ราย รวมถึงกำหนดจะขีดชื่อนิติบุคคลจำนวนนี้ให้เป็นสถานะร้างสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลภายใน 90 วัน นับแต่วันออกประกาศ เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และปิดช่องว่างของมิจฉาชีพที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 กรมฯ ได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน จำนวน 8,282 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน เพื่อจะได้มีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับ นิติบุคคลที่จะถูกขีดชื่อในครั้งนี้ กรมฯ ได้พิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐาน คือ กรณีไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งตืปี 2561 – 2563 ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว พบว่ามีจำนวน 8,282 ราย ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่แสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ดี แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้าง และสิ้นสภาพนิติบุคคลไปแล้ว
แต่ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้น ยังคงมีอยู่ และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน สำหรับประชาชนที่ต้องการจะตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน
อธิบดี กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล รวมถึงป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน
“การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคลถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรมฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคลอันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน ดังนั้น ขอฝากไปยังนิติบุคคลจะต้องดำเนินธุรกิจให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึงกรณีที่ธุรกิจมีความจำเป็นจะต้องยุติลง แต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นเช่นกัน
สุดท้ายนี้ การศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใดจำเป็นจะต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่เว็บไซต์กรมฯ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ บริการออนไลน์ และ DBD Datawarehouse+ หรือ แอพพลิเคชั่น DBD Service โดยไม่มีค่ามีค่าใช้จ่าย” อธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด