- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 04 December 2014 22:50
- Hits: 2109
น้ำมันล้นฉุดราคาตลาดโลกวูบลง 36% กดเงินเฟ้อต่ำต่อเนื่อง 2 ปี
แนวหน้า : กระทรวงพาณิชย์ ชี้การปรับขึ้นก๊าซกระทบราคา “อาหารจานด่วน” เล็กน้อย ส่วน ‘ดีเซล’ ที่ลดไม่ทำให้สินค้าลงตาม ขณะที่ ธปท. เชื่อปัจจัยพลังงานจะกดเงินเฟ้อเคลื่อนไหวในระดับต่ำไปอีก 1-2 ปี
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) อนุมัติให้ปรับขึ้นราคา ก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี อีกกิโลกรัมละ 1 บาท ทางกรมวิเคราะห์แล้วว่าจะไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้า และไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างในการขอปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคได้ เนื่องจากรถบรรทุกขนส่งสินค้าส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซล
ขณะที่อาหารจานด่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ยืนยันว่าเป็นการกระทบเพียงเล็กน้อย โดยการการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี 15 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จะกระทบต่อราคาอาหารจานด่วน 0.30 บาทต่อจานเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ทางกรม ก็ได้มีการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และการปรับขึ้นราคาต้องมีเหตุผล สอดคล้องกับต้นทุน หากพบผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาอาหาร สามารถโทร.แจ้งได้ที่สายด่วน 1569
ทั้งนี้ กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบราคาสินค้าอยู่สม่ำเสมอ หากมีการใช้ข้ออ้างเรื่องราคาพลังงานปรับขึ้นราคา ถือว่าไม่สมเหตุสมผล ราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เช่น เนื้อหมู ไก่ ผักสดหลายชนิด ยังไม่ปรับขึ้น หากพบการขึ้นราคาแพงเกินเหตุ กรมจะเชิญผู้ผลิตสินค้ามาทำความเข้าใจอีกครั้ง
“แม้ว่าราคาน้ำมันดีเซล จะมีการปรับลงอีก 0.60 บาทต่อลิตร อาจมีผลต่อต้นทุนการส่งสินค้าของผู้ประกอบการที่ลดลง แต่ขณะนี้จึงยังไม่มีการพูดคุยให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาสินค้าลงแต่อย่างใด โดยหลังจากช่วงปีใหม่อาจจะมีการหารือเรื่องของราคาสินค้ากันอีกครั้ง”
ส่วนช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จะเป็นช่วงที่ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงมีการซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่มาก เพื่อให้ประชาชนได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทางกรมจึงได้มีการขอความร่วมมือร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด ต่างๆ ในการดูแลเรื่องกระเช้าของขวัญปีใหม่ ไม่ให้มีการขายเกินราคา กระเช้าต้องมีการระบุราคา วันหมดอายุ และการรับประกัน หรือคืนสินค้าอย่างชัดเจนด้วย
ด้าน นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ระดับต่ำต่อเนื่องอีก 1-2 ปี และราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกปีหน้า เนื่องจากกลุ่มโอเปกหรือประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าออกยังไม่ลดการผลิตน้ำมัน เพราะต้องการให้ราคาต่ำต่อไป เพื่อสกัดไม่ให้สหรัฐผลิตน้ำมันจากเทคโนโลยีใหม่ที่มีต้นทุนสูงกว่าออกมา บวกกับรัฐบาลไทยปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ส่งผลให้ปีหน้าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้
อย่างไรก็ตามปัจจัยราคาพลังงานจะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด เพราะราคาน้ำมันลดลงไม่ใช่การบริโภคลดลง การที่ราคาพลังงานต่ำยังช่วยให้ดุลการค้าปรับตัวดีขึ้น ลดต้นทุนภาคธุรกิจ และค่าครองชีพของประชาชนในภาพรวม
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานในบทวิจัยว่า ตลาดน้ำมันโลกเข้าสู่ช่วงภาวะหมี (Bear Market) มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. 2557 โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาแล้วกว่าร้อยละ 36 จากระดับที่สูงกว่า 111 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเดือนมิ.ย. 2557 มาเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ๆ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงต้นเดือนธ.ค. 2557 ท่ามกลางหลายสัญญาณที่สะท้อนถึงภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดน้ำมัน
ทั้งนี้ มุมมองของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากการที่ราคาขายปลีกพลังงานในประเทศมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้งดังกล่าวข้างต้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญในช่วง 6 เดือนข้างหน้า คือ 1.สถานการณ์เงินเฟ้อของไทยน่าจะอยู่ในภาวะผ่อนคลายตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2557 มีค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.9 ต่ำลงจากร้อยละ 2.18 ในปี 2556
โดยประเมินว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ทิศทางเงินเฟ้อในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบใกล้เคียงร้อยละ 1.0 (หรือมีโอกาสลงไปต่ำกว่าร้อยละ 1.0 ในบางเดือน) หากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงเอื้อให้ภาครัฐสามารถเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานในประเทศส่วนที่เหลือได้ตามแผน
