- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 31 August 2022 11:33
- Hits: 2593
DITP เร่งขยายตลาดสมุนไพรไทย ยกระดับเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรตอบโจทย์ BCG Model ชี้เทรนด์มาแรง โอกาสสำคัญของผู้ประกอบการ บุกทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ เดินหน้าขยายตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย รองรับความต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ยกระดับเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ BCG Model ลุยเปิดตลาดออฟไลน์วางขายในศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมขยายสู่ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee ชี้เทรนด์ดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรมาแรง หนุนตลาดเติบโตสูงขึ้นทุกปี มองเป็นโอกาสสำคัญในการบุกตลาดส่งออก คาดการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาท ภายในปี 2569
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตลาดสมุนไพรมีแนวโน้มขยายตัวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ เห็นได้จากข้อมูลการคาดการณ์มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรของ Euromonitor ว่า ในปี 2569 ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูลค่าถึง 59,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30.37 จากปี 2564 ที่มีมูลค่า 45,640 ล้านบาท ขณะที่การค้าปลีกผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลกในปี 2564 มีมูลค่าประมาณ 1.92 ล้านล้านบาท โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าสูงสุด รองลงมา คือ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ และภูมิภาคยุโรปตะวันตก ตามลำดับ กรมฯ โดยสำนักงานพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ เล็งเห็นถึงโอกาสของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในการขยายตลาด จึงเร่งผลักดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ “พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดต่างประเทศ” ประจำปี 2565 ที่มีการพัฒนาภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจใหม่ BCG Model เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผ่านช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์
การจัดโครงการในปีนี้ กรมฯ ได้เน้นย้ำถึงการประยุกต์ใช้แนวคิด BCG Model ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์และสินค้า ตลอดจนการสร้างอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยผ่านบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างการจดจำทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 กลุ่มให้สอดคล้องตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่ม Social Activity ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับบำรุงผิวและร่างกายให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน กลุ่ม Outdoor Vibe ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูผิวจากกิจกรรมกลางแจ้ง และกลุ่ม Workaholic ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน และชื่นชอบศาสตร์แห่งการบำบัดด้วยกลิ่นหอมจากธรรมชาติ
นายภูสิต กล่าวต่อว่า กรมฯ นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ไปทดสอบตลาดโดยจัดแสดงและวางจำหน่ายในศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ (Siam Discovery) ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2565 เพื่อเปิดให้ลูกค้าทั่วไปสามารถเข้ามาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยได้อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันมีการจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Shopee ภายใต้ร้าน SELECTED THAI BRAND ระหว่างวันที่ 1-10 กันยายน 2565 พร้อมจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ เข้าร่วมเทศกาลช้อปปิ้งเดย์ของ Shopee ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้าจำนวนมาก
“กิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ตลอดจนการขยายเครือข่ายพันธมิตรใหม่ๆ ทางธุรกิจ โดยหลังจากนี้กรมฯ มีแผนในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เข้าร่วมโครงการฯ นำไปต่อยอดขยายตลาดเพิ่มทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพรเติบโตไกลสู่ตลาดโลก” นายภูสิต กล่าวปิดท้าย
A81140