WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1sจิตรกร ว่องเขตกร

บริษัทตั้งใหม่ พ.ค. 5,917 ราย เพิ่ม 6% ชี้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยว เห็นแววฟื้นตัว

      กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทตั้งใหม่ พ.ค.65 ฟื้นตัว มีจำนวน 5,917 ราย เพิ่มขึ้น 6% ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ติดอันดับ 3 ติดต่อกัน 4 เดือน ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเปิดประเทศ ส่วนยอดเลิก 1,102 ราย เพิ่ม 39% คาดแนวโน้มยังดี โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รองรับการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4

      นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพ.ค.2565 ผ่านเฟซบุ๊ซ ไลฟ์ DBD Pubilc Relations ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,917 ราย เทียบกับเม.ย.2565 เพิ่มขึ้น 10% และเทียบกับพ.ค.2564 เพิ่มขึ้น 6% ซึ่งเป็นการกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวลงไปในเดือนเม.ย.2565

       โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 14,357.13 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่กลับมาติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ

     ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,102 ราย เมื่อเทียบกับเม.ย.2565 เพิ่มขึ้น 30% เทียบกับพ.ค.2564 เพิ่มขึ้น 39% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 3,760.77 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร

       สำหรับ แนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ในระยะต่อไป คาดว่า จะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม การค้าขาย ภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจบันเทิง เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และรัฐบาลมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องระวังผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น การยกเลิกตรึงราคาก๊าซหุงต้ม การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) และสถานการณ์โควิด-19 ที่จะเป็นปัจจัยลบ กระทบต่อการประกอบธุรกิจ

     อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 อยู่ประมาณที่ 40,000 ราย และตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 70,000–75,000 ราย

      ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 พ.ค.2565) จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14% บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

 1sจดทะเบียนธุรกิจ

 

การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพฤษภาคม 2565 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

 

การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพฤษภาคม 2565

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

       นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  ประจำเดือนพฤษภาคม 2565 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ผลการจดทะเบียนธุรกิจ

ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนพฤษภาคม 2565

  • • จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคม 2565 จำนวน 5,917 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 14,357.13 ล้านบาท
  • • ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 543 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 382 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 225 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ
  • • ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,111 ราย คิดเป็น 69.48% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,726 ราย คิดเป็น 29.17% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 69 ราย คิดเป็น 1.17% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.18% ตามลำดับ

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม 2565

  • • จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนพฤษภาคม 2565 มีจำนวน 1,102 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 3,760.77 ล้านบาท
  • • ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 141 ราย คิดเป็น 13% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 52 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 36 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
  • • ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 819 ราย คิดเป็น 74.32% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 233 ราย คิดเป็น 21.14% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 42 ราย คิดเป็น 3.81% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 8 ราย คิดเป็น 0.73% ตามลำดับ

 ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤษภาคม 2565

  • • ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 พ.ค. 65) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 837,840 ราย  มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14% บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
  • • ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 496,968 ราย คิดเป็น 59.32% รวมมูลค่าทุน 0.43 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 249,016 ราย คิดเป็น 29.72% รวมมูลค่าทุน 0.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.19% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 74,998 ราย คิดเป็น 8.95% รวมมูลค่าทุน 2.06 ล้านล้านบาทคิดเป็น 10.28% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,858 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน 16.70 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.38% ตามลำดับ

การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนพฤษภาคม 2565

  • • เดือนพฤษภาคม 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 41 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 22 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 18,695 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 237 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 55,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม - พฤษภาคม 2564)
  • • นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 14,440 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,653 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 458 ล้านบาท ตามลำดับ

การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดือนพฤษภาคม 2565

          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล และ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวก   เพื่อลดต้นทุน ลดเวลา และลดการใช้กระดาษ โดยพัฒนางานบริการทุกกระบวนการของกรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ใช้บริการยื่นขอรับบริการได้ทุกที่ ทุกเวลาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และประกาศกรมเรื่องการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา             

การบริการหนังสือรับรองข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์และผลักดันการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ 

          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ยกระดับการเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล โดยการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) มาให้บริการ ซึ่งการบริการ e-Service เป็นการบริการขอหนังสือรับรองผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปี 2565 (ม.ค. – พ.ค.) มีจำนวนขอรับข้อมูล 1,529,441 ราย ซึ่งผ่านช่องทาง Self Pick up มีจำนวน 716,930 ราย , EMS จำนวน 193,669 ราย , Delivery จำนวน 9,295 ราย

และการออกหนังสือรับรองรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate File) จำนวน 609,547 ราย และรองรับการให้บริการหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติและสมาคมการค้า หนังสือรับรองภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ การขอรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากผ่านทาง www.dbd.go.th แล้ว สามารถขอรับบริการผ่านทาง Application DBD

e- Service ได้ทั้งระบบ Android และ iOS

          การให้บริการขอหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ส่วนกลาง) และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 ให้ขอรับบริการได้เฉพาะทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Service) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (www.dbd.go.th) มาตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563

          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขยายเวลาการลดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทลง 50% สำหรับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาเฉพาะกิจ (พื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในท้องที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย และจังหวัดสตูล) ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ให้ขยายไปสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566

DBD e - Filing การนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์

           การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี 2564 ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินแล้ว จำนวน 589,090 ราย คิดเป็น 77% ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินโดยนำส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 585,714 ราย คิดเป็น 99% และนำส่งในรูปแบบกระดาษ จำนวน 3,376 ราย คิดเป็น 1% กรมจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจ สมาคมการค้า หอการค้า ที่ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2564 ให้นำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) เป็นหลัก เช่นเดียวกับ การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี

ทั้งนี้ การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นสามารถนำส่งได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถตรวจสอบข้อมูลงบการเงินผ่าน DBD Data Warehouse หรือ DBD Service ผ่าน Application ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลงบการเงินประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าระบบ DBD e-Filing จะเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนและสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้ก้าวสู่การค้าในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรม

e-Certificate บริการระบบหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร

          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดระบบการให้บริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2555 และผ่านการรับรองระบบพิมพ์ออกฯ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) จึงเป็นนวัตกรรม ที่สามารถบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามกฎหมาย ที่กำหนด ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการ ณ สาขาธนาคารใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้รวมทั้งสิ้น 9 ธนาคาร จำนวน 3,223 สาขา

e-Secured จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์   

          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร ผ่าน Web Application และ Web Service แบบ Host to Host และชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และออกใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)

        โดยเจ้าพนักงานสามารถทะเบียนลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) รวมถึงสามารถตรวจค้นข้อมูลการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ผ่านเว็ปไซต์ www.dbd.go.th และ Application : DBD e-service ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผ่านเว็ปไซต์ Biz Portal ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.)

          ทั้งนี้ ตั้งแต่ 4 กรกฎาคม 2559 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 688,589 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 13,038,686 ล้านบาท โดยมีการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและใช้ประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สิน

          สำหรับ เดือนพฤษภาคม 2565 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 8,384 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 149,347 ล้านบาท โดยทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจมากที่สุด ได้แก่ สิทธิเรียกร้อง เช่น บัญชีเงินฝาก ลูกหนี้การค้า สิทธิการเช่า คิดเป็นร้อยละ 85.66 (มูลค่า 127,927 ล้านบาท) รองลงมาคือ สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น เครื่องจักร สินค้าคงคลัง คิดเป็นร้อยละ 14.33 (มูลค่า 21,402 ล้านบาท) กิจการ มีการจดทะเบียน คิดเป็นร้อยละ 0.01 (มูลค่า 18 ล้านบาท) ทั้งนี้ มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 534 คำขอ และจดทะเบียนยกเลิกสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 2,559 คำขอ  โดยมีผู้รับหลักประกันจำนวนทั้งสิ้น 361 ราย

e-Registration การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ 

          การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 – 31 พฤษภาคม 2565 มีการยืนยันการใช้งาน (Activate) จำนวน 136,975 ราย รับจดทะเบียน 77,852 ราย ซึ่งกรมได้มีการเตรียมการพัฒนาระบบให้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการยืนยันตัวตนนิติบุคคลและการใช้ระบบงาน รวมถึงการเชื่อมโยงเพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้แก่ SME ทั้งด้านการเงินและซอฟแวร์ รวมทั้งการให้บริการสำเนาเอกสารทะเบียนนิติบุคคลรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration

          นอกจากนั้นในวันที่ 4 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา กรมได้เปิดบริการการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Registration ในสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี อุดรธานี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ในจังหวัดนั้น

DBD Connect เชื่อมระบบบัญชีสู่การยื่นงบการเงินออนไลน์ (DBD e-Filing)

        กรมฯ ร่วมกับผู้ผลิตซอฟแวร์บัญชีชั้นนำของประเทศ จำนวน 16 ราย (20 โปรแกรม) พัฒนาการเชื่อมโยงซอฟต์แวร์บัญชีกับระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) แบบอัตโนมัติ ผ่านระบบ DBD Connect อำนวยความสะดวกการจัดทำบัญชีและงบการเงินสำหรับนักบัญชีให้สามารถนำส่งงบการเงิน ในรูปแบบ XBRL ที่เชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีพร้อมนำส่งงบการเงินผ่าน DBD e-Filing ได้โดยตรง และไม่ต้องกรอกข้อมูลงบการเงินซ้ำ

การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร (Total Solution for SMEs)  และ e-Accounting for SMEs

        Total Solution for SMEs เป็นการขับเคลื่อน SMEs ด้วยนวัตกรรม โดยส่งเสริมให้ธุรกิจเข้าถึงเทคโนโลยีในการบริหารจัดการธุรกิจที่ครบวงจรได้โดยง่าย เปลี่ยน Traditional SMEs เป็น Smart SMEs ซึ่งกรมได้รวบรวมโปรแกรมด้านการบริหารจัดการทั้ง 3 ภาคส่วนไว้ด้วยกันคือ โปรแกรมสำนักงาน (Office) โปรแกรมหน้าร้าน (POS) โปรแกรมบัญชี online (Cloud Accounting) ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 โปรแกรม 

        นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้แจกฟรี “โปรแกรม e-Accounting for SMEs” ซึ่งเป็นโปรแกรมหน้าร้าน (POS)    ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าขาย เช่น  มี Scanner เพื่อซื้อขายสินค้าในตัว , มีฐานข้อมูลของสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ เป็นต้น โดยร้านค้าสามารถสมัครขอใช้งานโปรแกรม e-Accounting for SMEs ได้ผ่านทางโครงการ Total Solution for SMEs หรือดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store ในระบบ Android

DBD Data Warehouse                              

          กรมได้พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีความสมบูรณ์หลากหลาย และสามารถจัดทำผลวิเคราะห์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจ ประกอบด้วยข้อมูลนิติบุคคล ข้อมูลและวิเคราะห์งบการเงิน ข้อมูลซัพพลายเออร์ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ ข้อมูลโอกาสทางธุรกิจ ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลไทย รวมทั้งข้อมูลสถิติการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล พร้อมทั้งนำข้อมูลธุรกิจไปสนับสนุน การตัดสินใจในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น 1,490,925 ครั้ง และในปี 2565 (มกราคม – พฤษภาคม) มีจำนวนผู้ใช้งานสะสม 5,653,881 ราย

 

 Click Donate Support Web

 

วิริยะ 720x100

EXIM One 720x90 C J

aia 720 x100PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!