WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1a 1eเดนมาร์ก

สำเร็จ!!! จุรินทร์ ถึงโคเปนเฮเกน พบผู้บริหารห้าง อิลลุ่ม (ILLUM) ยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์ก เปิดศักราชคัดสินค้าพรีเมียมไทยทำโปรโมชั่นในห้างครั้งแรก เริ่ม 1 ตุลาคม 65

     จุรินทร์ เยี่ยม'ซุปเปอร์มาเก็ต MENY'เดนมาร์ก สั่งทูตพาณิชย์เจรจาส่งออกอาหารไทยตรง 119 สาขาไม่ต้องผ่านเทรดเดอร์ วันที่ 18 มิถุนายน 2565 เวลา 11.00 น. (เวลาประเทศไทย 16.00 น.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือผู้บริหารห้างสรรพสินค้า ILLUM (อิลลุ่ม) นายยาน อุลสตัด

     พร้อมด้วยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่ห้าง ILLUM สาขาโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก

      นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ที่ห้างอิลลุ่มถือว่าเป็นห้างที่ขายสินค้าพรีเมียมสำหรับเดนมาร์ก และเป็นห้างใหญ่ระดับต้นและสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าพรีเมียม ถ้าเราเอาสินค้ามาวาง สำนักงานทูตพาณิชย์ที่นี่จะต้องคัดสินค้าที่เป็นสินค้าเกรดพรีเมียมเข้ามาวางซึ่งขณะนี้พูดคุยแล้วว่าทางห้างอิลลุ่มยินดีเปิดโอกาสให้เรามาจัด In-Store Promotion ทำการส่งเสริมการขายสินค้าลักซ์ชัวรี่แบรนด์ สำหรับผู้ซื้อระดับสูงของเดนมาร์กถือเป็นความสำเร็จขั้นต้นของเราที่จะมาเปิดตลาดที่นี่ สำหรับสินค้าไฮเอนด์ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2565

      และส่วนที่สอง ซุปเปอร์มาร์เก็ต MENY ที่นี่เรียกว่า 'เมนู'ซึ่งมีสาขาทั่วเดนมาร์ก 100 กว่าสาขาและมีสาขาทั่วโลกเกือบ 200 สาขา เป็นการร่วมทุนระหว่างนอร์เวย์กับเดนมาร์กซึ่งเป็นห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่และมีชื่อเสียง มีสินค้าอาหารจากเอเชียหลายประเทศมารวมที่นี่ด้วย สำหรับของไทยยังมีน้อยและของไทยส่วนใหญ่ที่ตนไปดูต้องผ่านเทรดเดอร์ ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งต้องไปเปลี่ยนเป็นแบรนด์ของเค้า แต่สินค้าเป็นสินค้าไทยและมาวางขายที่นี่ สิ่งที่ตนมอบหมายให้สำนักงานทูตพาณิชย์ที่นี่ดำเนินการต่อไปคือจะต้องประสานงานให้ผู้ส่งออกของเราสามารถส่งสินค้าไทยไปยังเทรดเดอร์ที่เนเธอร์แลนด์หรือห้างโดยตรง

    “เพื่อนำสินค้าไทยมาวางต่อไปโดยไม่ผ่านการเปลี่ยนยี่ห้อหรือเปลี่ยนสลาก แต่เป็นสินค้าไทยโดยตรงซึ่งอาจทำให้ต้นทุนลดลงเพราะไม่ต้องผ่านคนกลางและสินค้าไทยก็ติดตลาดเพิ่มเติม เช่น อาหารสดปรุงรส อาหารสำเร็จรูป ซึ่งส่วนใหญ่นิยม อาหารออร์แกนิก ตนเชื่อว่าจะเปิดตลาดที่นี่ได้ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถนำสินค้ามาจำหน่ายได้ภายใน 3-6 เดือน จะพยายามดำเนินการให้ได้ไม่ว่าจะเป็นที่ห้างอิลลุ่ม หรือเมนูที่นี่ก็ตาม และผลไม้ก็จะเป็นอีกสินค้าหนึ่งที่เราสามารถทำได้”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

      ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) มีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐไอซ์แลนด์ เพื่อเข้าร่วมการประกาศการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ที่สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ในวันที่ 20 มิถุนายน 2565 และเข้า ร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าไทย-สหราชอาณาจักร ที่สหราชอาณาจักร ในวันที่ 21 มิถุนายน 2565 

      โดยห้างสรรพสินค้าอิลลุ่ม (Illum) เป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเดนมาร์ก ที่มีอายุกว่า 125 ปี มีผู้คนมาเยือนประมาณ 6.5 ล้านคนต่อปี รวมทั้งยังถูกเสนอชื่อให้เป็น ‘Retail Destination of the year’ ในปี 2008 ในงาน World Retail congress ที่ประเทศสเปน และติดอันดับห้างสรรพสินค้าที่งดงามและน่าหลงใหลมากที่สุดในโลก (World’s Most Spectacular Department Store) ที่จัดอันดับโดย Travel+Leisure 2016 นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาอีกด้วย การเข้าหารือครั้งนี้เพื่อสร้างเครือข่ายทางการค้าระหว่างสองประเทศ และเพื่อให้ผู้ประกอบการเดนมาร์กสนใจนำสินค้าไทย ไปวางจำหน่ายเพิ่มขึ้น

        สำหรับ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

 

จุรินทร์ สร้างประวัติศาสตร์การค้าหน้าใหม่ จับมือ 4 รัฐมนตรีประกาศเจรจา FTA ไทย-EFTA

      จุรินทร์ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการค้า จับมือ 4 รัฐมนตรี สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ประกาศเปิดเจรจา FTA ไทย-EFTA หลังพยายามมาเกือบ 20 ปี และยังถือเป็นฉบับแรกที่ไทยทำกับยุโรป ตั้งเป้าเจรจาให้จบภายใน 2 ปี มั่นใจเพิ่มการค้า ลงทุน การค้าบริการ และความร่วมมือเศรษฐกิจระหว่างกันเพิ่มขึ้น

            นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีประกาศเริ่มการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ร่วมกับผู้แทนของ 4 ประเทศสมาชิก EFTA (สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์และลิกเตนสไตน์) ที่ร้านอาหาร ‘เอ็งแลนดิงกาวิก'(Englendingavík) เมืองบอร์การ์เนส สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ทางการค้าของประเทศไทย และเชื่อว่าของกลุ่มประเทศสมาชิก EFTA 4 ประเทศด้วย หลังจากใช้ความพยายามในการเจรจา FTA ระหว่างกันมาเกือบ 20 ปี เพิ่งมาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ จึงถือเป็นการประกาศนับหนึ่งในการเริ่มการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับ EFTA ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเจรจาให้จบ ภายใน 2 ปี หลังจากนั้นจะเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายของแต่ละประเทศต่อไป

            ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับ EFTA ปี 2564 มีมูลค่าประมาณ 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าภายหลังจากที่ FTA ประสบความสำเร็จเริ่มบังคับใช้ จะทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวในเวลาอันรวดเร็ว เพราะความร่วมมือจะมีทั้งเรื่องความร่วมมือการค้า สินค้า บริการ และการลดภาษีนำเข้า-ส่งออกระหว่างกัน รวมทั้งในเรื่องการลงทุน อีคอมเมิร์ซ และการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน และที่สำคัญจะจับมือกันนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต ซึ่งจะมีรายละเอียดในเรื่องสิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ ตามมา

            โดยสิ่งที่เห็นชัดและเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด คือ หลังจากประกาศเริ่มการเจรจา FTA ไทย-EFTA ภายในหนึ่งสัปดาห์ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้บริหารระดับอาวุโสหรือที่เรียกว่า SOM ของ EFTA ทันทีที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 28-30 มิ.ย.2565

            “ทุกอย่างจะเดินไปเร็ว เพราะมีนโยบายชัดเจนว่าอะไรที่ทำได้เร็ว ควรเร่งทำ ยิ่ง FTA ไทย-EFTA บรรลุผลเร็วเท่าไร ประโยชน์ทางการค้าการลงทุนระหว่างกันของไทย กับกลุ่มประเทศ EFTA ยิ่งเพิ่มมูลค่าระหว่างกันไปเร็วมากยิ่งขึ้น ประโยชน์ที่คนในประเทศทั้ง 5 ประเทศจะได้รับจะมีเพิ่มขึ้นในเวลาที่รวดเร็ว และฉบับนี้ยังถือเป็นฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศยุโรป”นายจุรินทร์กล่าว

            นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ผู้แทนของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมพิธีประกาศเริ่มการเจรจา FTA ไทย-EFTA ประกอบด้วย นางธอร์ดิส โคบรุน เรคเฟรียด กิลฟาดอตติร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไอซ์แลนด์ นางโดมินิค ฮาสเลอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ การศึกษาและกีฬาของลิกเตนสไตน์ นางยานิคกะ อันเดรียอัสเซน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของนอร์เวย์ นางมารี เกเบรียล อินไนเชน เฟลช เลขาธิการสํานักงานกิจการเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์ และนายอองรี เจทาซ เลขาธิการ EFTA

 

 Click Donate Support Web  

 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!