- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 19 May 2022 10:27
- Hits: 4727
ไทยร่วมอาเซียนถกความมั่นคงทางอาหาร รับมือโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน
ไทยร่วมประชุมคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน แลกเปลี่ยนข้อมูลสินค้าอาหารสำคัญ 4 ชนิด “ข้าว ข้าวโพด น้ำตาล และถั่วเหลือง” เพื่อประเมินความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค และการเตรียมการรับมือ หลังเผชิญความท้าทายจากโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน
นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมฯ ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Reserve Board : AFSRB) ผ่านการประชุมทางไกล ร่วมกับอาเซียน 8 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสถานการณ์สินค้าอาหารสำคัญ และประเมินสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคที่เผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย–ยูเครนที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานอาหารทั่วโลก
“อาเซียนได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์อาหารสำคัญของอาเซียน 4 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด น้ำตาล และถั่วเหลือง รวมทั้งคาดการณ์ผลผลิต การบริโภค การค้า และปริมาณสำรองอาหารของภูมิภาคและของโลก อีกทั้งยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าข้าว เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจส่งผลต่อปริมาณอุปทานสินค้าอาหารในภูมิภาคอาเซียน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เป็นความท้าทายต่อความมั่นคงทางอาหารครั้งใหญ่ของโลก”
สำหรับ ข้าวเปลือกปีนี้ อาเซียนมีผลผลิตรวม 196.59 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.55% จากปี 2564 ที่มี 193.60 ล้านตัน และมีสต๊อกรวม 40.60 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 29.22% จากปี 2564 ที่มี 31.42 ล้านตัน ส่วนน้ำตาลทราย ผลผลิตรวม 14.20 ล้านตัน เพิ่ม 2.24% จากปี 2564 ที่มี 13.89 ล้านตัน สต๊อกรวม 9.27 ล้านตัน เพิ่ม 11.42% จากปี 2564 ที่มี 8.32 ล้านตัน , ข้าวโพด ผลผลิตรวม 46.08 ล้านตัน เพิ่ม 1.46% จากปี 2564 ที่มี 45.42 ล้านตัน สต๊อกรวม 6.80 ล้านตัน เพิ่ม 4.46% จากปี 2564 ที่มี 6.51 ล้านตัน และถั่วเหลือง ผลผลิตรวมล่าสุดปี 2564 อยู่ที่ 0.93 ล้านตัน เพิ่ม 29.17% จากปี 2563 ที่มี 0.72 ล้านตัน สต๊อกรวม 0.20 ล้านตัน ลดลง 35.49% จากปี 2563 ที่มี 0.31 ล้านตัน แต่คาดว่า ผลผลิตปีนี้จะเพิ่มขึ้น
ในการประชุมครั้งนี้ มีผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน สำนักเลขานุการระบบข้อมูลสารสนเทศความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Information System : AFSIS) สำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve : APTERR) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Co - operation and Development : OECD) เข้าร่วมประชุม
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบกรอบนโยบายบูรณาการความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน (ASEAN Integrated Food Security : AIFS) และแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารของอาเซียน (Strategic Plan of Action – Food Security : SPA-FS) ปี 2564–2568 จากสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเตรียมพร้อมรับมือกับปัจจัยความท้าทายต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว และเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรในภูมิภาคอาเซียนให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ ผู้แทนจาก OECD ได้เชิญชวนสมาชิกอาเซียนที่สนใจเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อแลกเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงทางอาหารของสินค้าเกษตรและสินค้าประมงร่วมกันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในช่วงปลายปีนี้ด้วย
สำหรับ การประชุม AFSRB เป็นกลไกความร่วมมือสำคัญของสมาชิกอาเซียนในการเตรียมพร้อมรับมือและติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารในระดับภูมิภาค โดยคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (AFSRB) ได้จัดตั้งขึ้นภายใต้ความตกลงว่าด้วยการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (Agreement on the ASEAN Food Security Reserve) ที่ได้มีการลงนามเมื่อปี 2522 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรักษาเสถียรภาพ และความมั่นคงด้านอาหารภายในภูมิภาค
ซึ่งประเทศสมาชิกจะประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งประเมินและคาดการณ์สถานการณ์อาหารของภูมิภาคอาเซียนและของโลก ตลอดจนติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจถึงความมั่นคงด้านอาหาร โดยในปี 2566 อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม AFSRB ครั้งที่ 43 ต่อไป