- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 14 May 2022 12:55
- Hits: 5979
พาณิชย์ ขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียน จำนวน 8,833 ราย ทำให้มีสถานะร้างเตือน...ก่อนลงทุนต้องตรวจสอบสถานะนิติบุคคลให้รอบคอบก่อน
ปีงบประมาณ 2564 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียน จำนวนทั้งสิ้น 8,833 ราย ทำให้นิติบุคคลมีสถานะร้าง เพื่อเป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และป้องกันมิจฉาชีพที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานให้ทราบว่า ปีงบประมาณ 2564 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการขีดชื่อนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครออกจากทะเบียน เนื่องจาก’ไม่นำส่งงบการเงิน’ติดต่อกัน 3 ปี (ปีงบการเงิน 2560-2562) จำนวน 4,441 ราย และไม่จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีภายใน 3 ปีนับแต่วันรับจดทะเบียนเลิก จำนวน 4,392 ราย รวมทั้งสิ้น 8,833 ราย เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน สร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่จะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจ และป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
นิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคได้ประสานให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดดำเนินการในแนวทางเดียวกัน สำหรับการขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนมีหลักเกณฑ์การพิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐาน ดังนี้ 1) ไม่ส่งงบการเงินนับแต่ปีปัจจุบันย้อนหลังไป 3 ปีติดต่อกัน 2) จดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี นับแต่วันรับจดทะเบียนเลิก ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่านิติบุคคลไม่ได้ประกอบการงานแล้ว
หากไม่ขีดชื่อออกจากทะเบียน ชื่อของนิติบุคคลนั้นคงค้างอยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนของกรมฯ ทำให้ไม่สอดคล้องกับจำนวนนิติบุคคลที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลต่อประชาชน ผู้ร่วมค้า หรือผู้ร่วมลงทุนอาจเข้าใจผิดในสถานะของนิติบุคคลเหล่านั้นได้และก่อให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตหลอกลวงตามมา ทั้งนี้ เมื่อนิติบุคคลมี สถานะร้าง จะสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล แต่อาจกลับคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน
การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคลถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรมฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคลอันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน ดังนั้น นิติบุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึงกรณีที่นิติบุคคลจะยุติธุรกิจลงแต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น
และขอฝากให้มีการศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใดจะต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดีเพื่อป้องกันการมิให้เกิดความเสียหายขึ้น โดยสามารถตรวจสอบสถานะนิติบุคคลได้ผ่าน3 ช่องทาง 1) สายด่วน 1570 2) www.dbd.go.th หัวข้อ DBD DataWarehouse+ (คลังข้อมูลธุรกิจเดิม) และ 3) ดาวน์โหลด Application ‘DBD e-Service’ ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเพื่อเช็คสถานะนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่มีสถานะร้างได้ที่ www.dbd.go.th >> คู่มือทำธุรกิจ >> จดทะเบียนธุรกิจ >> ประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5982 e-Mail : [email protected] สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th
พาณิชย์ ขีดชื่อนิติบุคคล 8,833 ราย เป็นบริษัทร้าง ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวง
พาณิชย์ ขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนประจำปี 64 จำนวน 8,833 ราย ทำให้มีสถานะร้าง เหตุไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี และไม่จดทะเบียนชำระบัญชีใน 3 ปี นับจากวันจดทะเบียนเลิก เพื่อปรับฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และป้องกันมิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน แนะการติดต่อทำธุรกิจหรือร่วมลงทุน ต้องตรวจสอบนิติบุคคลให้ดีก่อน ผ่าน 3 ช่องทาง
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้รายงานว่าปีงบประมาณ 2564 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการขีดชื่อนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครออกจากทะเบียน เนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี (ปีงบการเงิน 2560-2562) จำนวน 4,441 ราย และไม่จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีภายใน 3 ปี นับแต่วันรับจดทะเบียนเลิก จำนวน 4,392 ราย รวมทั้งสิ้น 8,833 ราย
เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน สร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่จะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจ และป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่าง ๆ ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค ได้ประสานให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดดำเนินการในแนวทางเดียวกัน
“หากไม่ขีดชื่อออกจากทะเบียน ชื่อของนิติบุคคลนั้นจะคงค้างอยู่ในฐานข้อมูลทะเบียน ทำให้ไม่สอดคล้องกับจำนวนนิติบุคคลที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลต่อประชาชน ผู้ร่วมค้า หรือผู้ร่วมลงทุนอาจเข้าใจผิดในสถานะของนิติบุคคลเหล่านั้นได้ และก่อให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตหลอกลวงตามมา”นายสินิตย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อนิติบุคคลมีสถานะร้าง จะต้องสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล แต่อาจกลับคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน
นายสินิตย์ กล่าวว่า การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคล ถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคล อันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน ดังนั้น นิติบุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึงกรณีที่นิติบุคคลจะยุติธุรกิจลง แต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ขอฝากให้มีการศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใด จะต้องตรวจสอบข้อมูล หรือสถานะให้ดี เพื่อป้องกันการมิให้เกิดความเสียหายขึ้น โดยสามารถตรวจสอบสถานะนิติบุคคลได้ผ่าน 3 ช่องทาง 1.สายด่วน 1570 2. www.dbd.go.th หัวข้อ DBD DataWarehouse+ (คลังข้อมูลธุรกิจเดิม) และ 3.ดาวน์โหลด Application DBD e-Service ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต เพื่อเช็คสถานะนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่มีสถานะร้างได้ที่ www.dbd.go.th >> คู่มือทำธุรกิจ >> จดทะเบียนธุรกิจ >> ประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน
ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามรายละเอียดได้ที่กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5982 e-Mail : [email protected] สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th