- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 26 November 2014 21:26
- Hits: 2223
‘อภิรดี’นำทีมกระชับสัมพันธ์รัสเซีย หวังเพิ่มการค้าสู่ 1 หมื่นล.เหรียญ
แนวหน้า : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2557 นี้ ตนจะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 2 ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งมีนาย Alexey Likhachev รมช.พัฒนาเศรษฐกิจ สหพันธรัฐรัสเซีย เป็นหัวหน้าผู้แทนสหพันธรัฐรัสเซีย ในการประชุม
ทั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ซึ่งสหพันธรัฐรัสเซียมีความต้องการสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารจากไทย เนื่องจากขณะนี้สหพันธรัฐรัสเซียมีปัญหาทางด้านการเมืองกับทางยุโรป ที่เป็นแหล่งนำเข้าสินค้าสำคัญ ทำให้ต้องมองหาตลาดอื่นที่มีศักยภาพ และการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีของไทยในการไปศึกษาตลาดสหพันธรัฐรัสเซียด้วย โดย 2 ฝ่ายตั้งเป้าที่จะขยายการค้าและการลงทุนให้ถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2559 เป็นการเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า จากปัจจุบันที่มีการค้าและการลงทุนร่วมกันประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
“รัสเซียเป็นประเทศที่น่าสนใจ มีศักยภาพสูงมากที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยไทยจะเสนอให้รัสเซียนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย โดยเฉพาะสินค้าศักยภาพ เช่น ข้าว เนื้อไก่ สินค้าประมง ผัก ผลไม้ และสับปะรด เป็นต้น รวมถึงไปเจรจาขอให้รัสเซียผ่อนปรนมาตรการสุขอนามัยพืชและสัตว์ และกฎระเบียบในการนำเข้า นอกจากนี้ไทยจะผลักดันให้มีการรื้อฟื้นเวทีการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของ 2 ฝ่าย เพื่อเร่งรัดผลักดันให้รัสเซียรับรองโรงงานสินค้าไก่และประมงของไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้รัสเซียได้มาตรวจคุณภาพสินค้าประมง สินค้าปศุสัตว์ของไทยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้าไทยมากขึ้น”นางอภิรดี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการไปประชุมครั้งนี้ ไทยจะเสนอให้ภาคเอกชนทั้ง 2 ฝ่าย เพิ่มการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนา, การผลิตเครื่องบินและชิ้นส่วน อุปกรณ์และส่วนประกอบ, การผลิตเครื่องจักรกล อุปกรณ์และส่วนประกอบ, อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งไทยจะเชิญให้สหพันธรัฐรัสเซียเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยาง ภายใต้โครงการ 'เมืองยาง' ที่นิคมอุตสาหกรรม จ.สงขลา โดยนักลงทุนจะได้รับสิทธิพิเศษและการส่งเสริมในระดับสูงสุดจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
นอกจากนี้ ไทยจะผลักดันด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งจะทำความร่วมมือกับสหพันธรัฐรัสเซียในการดึงนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียให้เข้ามาในไทยมากขึ้น และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายมากขึ้น โดยในปี 2556 มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาในไทยมากเป็นอันดับ 2 คือประมาณ 1.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 33% อีกทั้งจะมีการหารือเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว, การส่งเสริมท่องเที่ยวตามแนววิถีไทย และปัญหาการเงินของบริษัทนำเที่ยวของรัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ให้บริการท่องเที่ยวไทย ดังนั้นต้องมีการเพิ่มความร่วมมือด้านการเงินและธนาคารด้วย แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าไทยยังขาดแคลนมัคคุเทศก์ (ไกด์) ที่พูดภาษารัสเซียได้
