- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 23 April 2022 15:13
- Hits: 8923
พาณิชย์ จับมือ ก.ล.ต. แก้กฎ ปรับวิธีซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืน
พาณิชย์ จับมือ ก.ล.ต. แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ปรับวิธีการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของนิติบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน ช่วยบริษัทให้สามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงิน และช่วยคุ้มครองผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา
โดยการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท พ.ศ.2544 มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.แก้ไขเพิ่มเติมรายการเกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืน มติที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนและการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนทราบข้อมูลครบถ้วน สมบูรณ์ขึ้น
2.กำหนดให้กรรมการมีอำนาจในการอนุมัติการซื้อหุ้นคืนที่มีจำนวนไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดได้ หากมีข้อบังคับกำหนดไว้
3.ปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับวิธีการซื้อหุ้นคืนและวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในกรณีหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
4.ลดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่จาก 1 ปี เป็น 6 เดือน และลดระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัทจาก 6 เดือน เป็น 3 เดือน ทำให้บริษัทสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น
5.เพิ่มเติมวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ให้สามารถจำหน่ายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม กรรมการหรือพนักงานของบริษัท (ESOP)
“การแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สอดคล้องกับแนววิถีการประกอบธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทำให้บริษัทสามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นการคุ้มครองผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น อำนวยความสะดวก และเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทในภาพรวม”นายสินิตย์กล่าว
