- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 04 April 2022 22:52
- Hits: 7381
ทูตพาณิชย์ เบอร์ลินเชื่อมพ่อค้าแม่ค้า'ไทยพาร์ก'กับผู้นำเข้า-ห้าง หนุนส่งออกวัตถุดิบอาหาร
ทูตพาณิชย์เบอร์ลินเดินหน้าเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายระหว่างพ่อค้าแม่ค้าใน 'ไทยพาร์ก' กับผู้นำเข้า และห้างค้าปลีก เพื่อซื้อสินค้าในราคาได้รับส่วนลดพิเศษ คาดช่วยเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัตถุดิบอาหาร ที่มีความต้องการสูงขึ้น หลังไทยพาร์กได้เริ่มกลับมาเปิดให้บริการ ตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.พัชรา รัตนบุบผา อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้เดินหน้าขยายโอกาสให้กับสินค้าไทยและอาหารไทยในตลาดเยอรมนี ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)
โดยได้เข้าไปช่วยเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าในตลาด ‘ไทยพาร์ก’ กับผู้ประกอบการที่นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไทย และห้างค้าปลีกที่นำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากเอเชีย เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำธุรกิจ ช่วยลดต้นทุนให้กับพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งช่วยเพิ่มความต้องการสินค้าไทย วัตถุดิบอาหารไทย ที่จะมีผลทำให้มีการส่งออกเข้าสู่ตลาดเยอรมนีได้เพิ่มขึ้น
“สำนักงานฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งการให้คำปรึกษา การเป็นพี่เลี้ยงให้กับสมาคมศูนย์ชุมชนชาวไทยในเบอร์ลินในการบริหารจัดการตลาดนัด ‘ไทยพาร์ก’ และยังได้นำคณะกรรมการสมาคมฯ เดินทางไปเมือง Wiesenena พบปะกับผู้บริหารบริษัท Wilai GmgH ผู้ประกอบการไทย ที่ทำธุรกิจด้านนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไทยจำพวกของขวัญ ของที่ระลึก และของตกแต่งบ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นรายใหญ่สุดของเยอรมนี เพื่อทำความรู้จักและเจรจาการสั่งซื้อสินค้านำมาจำหน่ายในไทยพาร์ค
รวมทั้งช่วยเจรจากับร้าน Vinh Loi ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าบริโภคและอุปโภคต่าง ๆ นำเข้าจากภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย เพื่อทำธุรกิจระหว่างกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าในตลาดไทยพาร์ก ที่จะได้ส่วนลดพิเศษ จากการซื้อสินค้าอาหารไทยและเครื่องปรุงต่างๆ จากร้าน Vinh Loi เพื่อมาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหารขายในตลาดไทยพาร์ค”น.ส.พัชรากล่าว
ทั้งนี้ ไทยพาร์ค ได้กลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา โดยเป็นตลาดนัดอาหารไทยแนว Street Food ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคยุโรป ตั้งอยู่ในสวนพรอยเซนพาร์ค สวนสาธารณะขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร ใจกลางกรุงเบอร์ลิน โดยไทยพาร์กจะเปิดขายอาหารในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ในช่วงหน้าฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนเม.ย.-ต.ค.) ของทุกปี ปัจจุบันมีจำนวนพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยกว่า 60 ราย ที่มาเปิดร้านขายอาหารไทย ทั้งเมนูคาวหวานต่างๆ มากมาย เช่น ส้มตำ ห่อหมก อาหารใต้ อาหารเหนือ ขนมจีน อาหารทะเลทอด ไก่สะเต๊ะ ผัดไทย เกี๊ยวนึ่ง ปอเปี๊ยะ ทอดมันปลา ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ขนมชั้น และอื่นๆ
สำหรับ ลูกค้ามีทั้งชาวไทย ชาวเยอรมัน และชาวต่างชาติต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลินและใกล้เคียง โดยจะแวะเวียนมาวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน จุดเด่นที่สำคัญของไทยพาร์ก คือ รสชาติอาหารไทยจัดจ้านแบบไทยแท้ ๆ ราคาย่อมเยา อัธยาศัยไมตรีของพ่อค้า แม่ค้าชาวไทย และทำเลที่ตั้งที่สะดวกต่อการเดินทางและการพักผ่อน
สำหรับ ความเป็นมาของไทยพาร์ก เริ่มต้นขึ้นในปี 1992 เมื่อครอบครัวชาวไทย-เยอรมันกลุ่มเล็กๆ เพียง 4ครอบครัว มาปิกนิกด้วยกันที่สวน จากนั้นในกลุ่มหญิงไทยก็เริ่มชักชวนกันมาแบบปากต่อปาก ตลอดจนถึงหญิงชาวลาว ชาวกัมพูชา และชาวฟิลิปปินส์ จนทำให้ทุกคนมาปิกนิกที่สวนแห่งนี้เป็นประจำ และค่อยๆ พัฒนาเป็นชุมชนกลายๆ แห่งหนึ่ง ที่ทุกคนจะทำอาหารจานเด็ดของตนมาจากบ้านเพื่อแบ่งปันกันลิ้มลอง กิจกรรมที่ทุกคนโปรดปราน
คือ การกินและเล่นพนัน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนใช้เวลาอยู่ในสวนได้ตลอดทั้งวัน เมื่อวงพนันยังไม่จบ แต่อาหารหมดเสียก่อน ก็เริ่มถามคนรอบตัวว่ามีใครมีอาหารแบ่งขายให้บ้าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งแผงขายอาหาร หลังจากนั้นไม่กี่ปี แผงขายอาหารก็เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งชาวเยอรมันและชาวต่างชาติ จนเกิดเป็น ‘ไทยปาร์ก’ ที่เป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้
นอกจากนี้ สมาคมศูนย์ชุมชนชาวไทยในเบอร์ลิน (Thailändischer Verein in Berlin e.V.) ยังได้รับเลือกจากรัฐบาลเบอร์ลินให้เป็นผู้ดูแลบริหารไทยปาร์ก โดยมีแนวคิดที่จะบริหารจัดการไทยปาร์กแบบใหม่ เพื่อบริหารจัดการและกำกับดูแลผู้ค้าในไทยพาร์กได้อย่างใกล้ชิด และกำหนดให้ผู้ประกอบการขายอาหารไทยในไทยปาร์กต้องขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายของเยอรมัน